นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรณภูมิสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันจับกุมหนุ่มบริษัททัวร์มือไว ฉกโทรศัพท์มือถือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรณภูมิสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันจับกุม นายขวัญชัย จงชนะ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในคดีลักทรัพย์ภายในท่าอากาศยาน โดยจับกุมได้ที่บริเวณสวนลุมไน้ท์บาซาร์ เขตจตุจักร กทม.
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 12.00 น. MR.MANICKAM HARI HARA SUDHAN อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าในระหว่างที่ตนเข้าไปซื้อสินค้าที่ร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ที่บริเวณชั้น 2 ประตู 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และโทรศัพท์มือยี่ห้อ LG รุ่น G7 มูลค่ากว่า 2 หมื่นบาทของตนได้สูญหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลัง จนกระทั่งทราบว่าในระหว่างที่ผู้เสียหาย MR.MANIICKAM ได้เข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อดังกล่าวและได้ลืมโทรศัพท์ที่วางไว้บริเวณเคาน์เตอร์จ่ายเงิน จากนั้นพบชายต้องสงสัยได้หยิบเอาโทรศัพท์มือถือดังกล่าวไป ก่อนรีบเดินไปที่ลานจอดรถโซน 1 และได้ขับรถยนต์ตู้ทะเบียน 32-6965 กทม. ออกไป และจากการตรวจสอบทราบชื่อชายผู้ต้องสงสัยคือ นายขวัญชัย จงชนะ อายุ 39 ปี สัญชาติไทย เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ จึงรวบรวมหลักฐานให้ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขอศาลออกหมายจับที่ จ.413/2562 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 เพื่อติดตามจับกุมชายคนดังกล่าว
จนกระทั่งทราบว่าชายต้องสงสัยที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดที่ก่อเหตุลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป ทำงานอยู่บริษัททัวร์แห่งหนึ่งย่านสวนลุมไน้ท์บาซาร์ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายขวัญชัย โดยแสดงหมายจับ และภาพจากกล้อง CCTV ให้นายขวัญชนะ ดูและนายขวัญชนะ ได้ให้การยอมรับว่าเป็นตนเองและยอมรับว่าในวันที่เกิดเหตุตนเองได้เป็นคนหยิบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปจริง โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นของใคร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน มีความผิดตามมาตรา 335 จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปีหรือปรับ 20,000 – 100,000 บาท ก่นคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
