เมื่อวันที่11 มิถุนายน 2562เวลา08.30น.ที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีกลุ่มชาวบ้านหนองหลักอำเภอชุมพวงจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 50 คนได้มาขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาโดยมี นางปิยะฉัตร อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้เดินทางมารับหนังสือแทน และจะนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดและนำเข้าที่ประชุมในวันอังคารที่จะถึงนี้ และจะลงพื้นที่หาแนวทางแก้ไขปัญหาระหว่างกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์และกลุ่มผู้ทำนาต่อไป โดยมีเนื้อหาดังนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- ชมรมโฮปฯ ร่วมกับชุมชน จัดกิจกรรม ซานตาโฮป แจกของขวัญให้กับเด็กในชุมชนกว่าพันชิ้น
เรื่องขออนุญาตทำการเพาะปลูกในฤดูการผลิตนาปี 2562 / 2563 ที่ดินแปลงที่เป็นกรณีพิพาทกับหน่วยงานของรัฐจำนวน 2605 ไร่ผู้เดือดร้อน 239 ครอบครัว แปรงตำบลหนองหลักอำเภอชุมพวงจังหวัดนครราชสีมา
ด้วยข้าพเจ้านายสมคิด หอมเนตรอาชีพนักวิชาการอิสระประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ได้รับคำร้องเรียนพร้อมเอกสารประกอบจากสูตร นางศุจิกา. สุขล้อม นางทองมีช่อทางหลาง และพวกรวม 239 คน/ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนกรณีสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมาสาขาชุมพวงได้ดำเนินการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวง
1 แปลงทำเลเลี้ยงสัตว์บ้าน ขุนละคร หมู่ที่ 2 น.สเลขที่ 35 731 จำนวน 405กว่าไร่
2 แปลงทำเลเลี้ยงสัตว์บ้านหนองหลักหมู่ที่ 38 น.สเลขที่ 5 1665 จำนวน 806 กว่าไร่
3 แปลงทุ่งโนนโจกสาธารณประโยชน์ หมู่ที่ 4 นสล เลขที่นม 5 1 6 6 3 จำนวน 806 กว่าไร่
4 แปลงทำเลเลี้ยงสัตว์ทุ่งโนนโจก หมู่ที่ 7 นสล เลขที่ 5 1 6 4 จำนวน 587-2-02 ไร่
จำนวน 2605 ไร่ ตำบลหนองหลัก อำเภอชุมพวงจังหวัดนครราชสีมามีผู้ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 239 คน/ครอบครัว ทางการได้ห้ามราษฎรจำนวน 239คน/ ครอบครัวเข้าทำการเพาะปลูกทำนาตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง
ระหว่างที่จังหวัดนครราชสีมาโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาอยู่ในขณะนี้
เรือนราษฎรทั้ง 239 คน/ ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากมีราษฎรไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้โดยเฉพาะนาปีตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา
ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทั้งในระยะเวลาสั้นและระยะยาวราษฎรจำนวน 239 คน/ ครอบครัวตามบัญชีรายชื่อที่แนบมาด้วยแล้ว
1 ขอให้จังหวัดนครราชสีมาดำเนินงานแก้ไขตามหนังสือและข้อสั่งการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติลงวันที่ 18 ตุลาคม 2561 และหนังสือของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่นร 0508/ท 7225 ลงวันที่ 24 กันยายน 2561
2 ราษฎรจำนวน 239 คน/ ครอบครัวขอผ่อนผันเข้าทำประโยชน์เพาะปลูกข้าวข้าวโพดหรือแปลงเกษตรอื่นๆควบคู่กับการแก้ไขที่ดินที่เป็นกรณีพิพากจำนวน 2605 ไร่ จนกว่าการพิจารณาหรือการแก้ไขปัญหาจะสิ้นสุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว
3 ขอให้จังหวัดนครราชสีมาออกคำสั่งจังหวัดนครราชสีมาเพื่อแก้ไขที่ดินแปลงกรณีพิพาทประกอบด้วย
3.1 ภาคส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา
3.2 ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 239คน/ ครอบครัว
3.3 เครือข่ายภาคประชาชนเพื่อมาร่วมแก้ไขปัญหา
จึงนำเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
นายสมคิด หอมเนตร
นักวิชาการอิสระ
1 นางศุจิกา. สุขล้อม ผู้ได้รับผลกระทบ
2 นางทองมี ช่อทองหลาง ผู้ได้รับผลกระทบ
3 นายสำรวย นานาผู้ได้รับผลกระทบ
4 นางประนอม กุนอก ผู้ได้รับผลกระทบ
5 นางสุภรพรรณ กิจไธสง
ผู้ได้รับผลกระทบ
6 นางสาวสุนันท์ นิลรักเมือง ผู้ได้รับผลกระทบ
7 นางสาวอุดร ผกาทิพย์ ผู้ได้รับผลกระทบ
8 นายเพชร ถนัดไร่ ผู้ได้รับผลกระทบ
และผู้ได้รับผลกระทบ 239 คน/ ครอบครัว
สืบเนื่องจากคดีนี้ทางศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมาได้ตัดสินแล้วศาลปกครองมีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้นายอำเภอดำเนินการคุ้มครองป้องกันที่ดินของรัฐที่พิพาทในคดีนี้ ตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.๒๔๕๗ และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ.๒๕๕๓ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ๑๘๐ วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด นายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ นักวิชาการอิสระ, ประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น เผยว่า ตนได้รับคำร้องเรียนพร้อมเอกสารจากราษฎรบ้านโนนสวน ต.หนองหลัก จำนวน 239 คน/ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อน ในวันนี้จึงเดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขออนุญาตเข้าทำการเพาะปลูกในฤดูการทำนาก่อน และได้จัดทำหนังสือร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือต่อ
1) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 2) ผู้ตรวจการแผ่นดิน 3) นายกรัฐมนตรี 4) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 5) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตามลำดับ
ทั้งส่วนการถวายฏีกาต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 สำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการเพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ( ก.บ.ร.)และองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่อีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: