เลขาธิการ ป.ป.ท.เผย จากการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 20 จังหวัดทั่วประเทศ พบส่อทุจริตถึง 12 จังหวัด โดยพรุ่งนี้จะเสนอตั้งอนุกรรมการไต่สวน จ.บึงกาฬและหนองคาย
พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า หลังจากส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เป้าหมายใน 20 จังหวัด พบว่าส่อทุจริตใน 12 จังหวัด โดยเบื้องต้น ป.ป.ท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนแล้ว 2 จังหวัด คือ ขอนแก่นและเชียงใหม่ พรุ่งนี้ (27 ก.พ.) จะเสนอให้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนอีก 2 จังหวัด คือ บึงกาฬและหนองคาย
ส่วนอีก 8 จังหวัดที่พบว่าส่อเค้าทุจริต จะเสนอบอร์ด ป.ป.ท.ให้มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวน ได้แก่ สระบุรี อุดรธานี สุราษฏ์ธานี อยุธยา น่าน กระบี่ ตราด และตรัง ส่วนจังหวัดที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ยังไม่มีรายงานพบการกระทำผิด
โดยลักษณะการกระทำผิด จะคล้ายคลึงกัน คือ มีการสวมสิทธิ์เพื่อนำชื่อไปเบิกเงิน และไม่นำมาจ่ายให้ประชาชน ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ท.กำลังตรวจสอบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังหรือทำเป็นขบวนการหรือไม่ หากพบว่ามีผู้เกี่ยวข้อง และมีตำแหน่งสูงกว่าระดับซี 8 คณะกรรมการ ป.ป.ท.จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ
นอกจากนี้ ได้ประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะอยู่ในสำนวนสอบสวนของอนุกรรมการไต่สวน
ส่วนจังหวัดที่ตรวจสอบพบว่ามีความผิด จะเสนอย้าย ผอ.ศูนย์หรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบว่า มีพฤติการณ์กระทำความผิดหรือไม่ และมีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเกี่ยวข้องบ้าง หากพบความผิดชัดเจน จะส่งเรื่องให้หน่วยงานต้นสังกัด ตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัย ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมฯ สามารถตรวจสอบควบคู่กับ ป.ป.ท.ได้ และสามารถโยกย้ายข้าราชการที่ถูกกล่าวหา ออกจากหน้าที่ชั่วคราวได้ แต่หากพบความผิดทางอาญา ป.ป.ท.จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องทันที
พ.ท.กรทิพย์ ระบุว่า ตอนนี้ ป.ป.ท.ขอตรวจสอบเพียงโครงการศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง ปีงบประมาณ 2560 ให้เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งกำหนดกรอบเวลาตรวจสอบ 90 วัน จะสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ส่วนงบประมาณของศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งย้อนหลังไปในปี 2552 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น และโครงการอื่นๆของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะยังไม่มีการตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่นางทิชา ณ นคร อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ระบุว่า นักศึกษาที่เปิดโปงการทุจริตปลอมลายมือชื่อเพื่อรับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะมีกรณีดังกล่าว และเบื้องต้นพบว่าไม่น่าจะเป็นการข่มขู่ เพียงแต่อาจารย์ตำหนินักศึกษาเท่านั้น และเชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าไปข่มขู่นักศึกษา เพราะสังคมกำลังจับตามอง
ส่วนกรณีที่มีคลิปภาพ ผอ.ศูนย์ดังกล่าว กำลังขนย้ายเอกสารเพื่อนำมาปลอมแปลงที่บ้านตัวเอง นายวิษณุ ระบุวา คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน ขณะที่คำสั่งย้ายนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม. และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้หมายความว่าทั้งสองคนมีความผิด แต่เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชา อาจทำให้ข้าราชการรายอื่นๆไม่กล้าให้ข้อมูล จึงย้ายออกเพื่อให้การตรวจสอบเรื่องดังกล่าว สะดวกและโปร่งใส
