เพชรบูรณ์-2 ส.ส.”พลังประขารัฐ”เร่งช่วย เกษตรกรปลูกยาสูบ-ผู้ค้ายาเส้นหลังถูกรีดภาษีโหด จนยาเส้นขายไม่ออก-โรงงานปิดกิจการระนาว
เวลา 09.00 น.วันที่ 17 มิถุนายน ที่วัดเกาะแก้ว หมู่ที่ 1 บ้านหนองยาว ต.หินฮาว อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ นายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส.เพชรบูรณ์ พร้อม นส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธ์ 2 ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปพบกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและผู้ค้ายาเส้นในเขต อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จำนวนกว่า 500 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลขึ้นภาษียาเส้น ที่นัดชุมนุมกันเพื่อนำเสนอปัญหาหลังจากรัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตยาเส้นสูงกว่าเดิมถึง 20 เท่าหรือราว 2000% โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา
จนทำให้ยาเส้นขายไม่ออกเพราะผู้ค้าไม่รับซื้อ กระทั่งยาเส้นตกค้างในมือเกษตรกรราว 200,000 กิโกรัม ขณะเดียวกันโรงงานยาเส้นต้องปิดกิจการกันระนาว โดยก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือถึงรัฐบาลผ่านทางจังหวัดฯ แต่เรื่องยังเงียบฉี่ โดยนายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส.เพชรบูรณ์ พร้อมนส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธ์ 2 ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ รับปากจะเร่งนำเสนอรัฐบาลเพื่อหาแนวทางแก้ไข
นายจักรัตน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตัวแทนผู้ประกอบการได้ไปพบพร้อมเสนอปัญหาถึงกรณีรัฐบาลขึ้นภาษียาเส้น ทำให้มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตเกษตรกรอย่างไร เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วใบยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ก็ถูกปรับขึ้นภาษีเหมือนกัน จนโรงงานยาสูบขาดทุนกำไรเพราะบุหรีไทยขายไม่ออก ในปีนี้ก็มาขึ้นภาษียาเส้นอีก จึงรับปากจะไปช่วยแก้ไขปัญหาให้ โดยอันดับแรกจะพยายามให้ชะลอการขึ้นภาษีรวมทั้งให้มีการหาตัวเลขที่พอรับกันได้ ในขณะที่เกษตรกรก็ยังยึดอาชีพปลูกยาสูบได้เหมือนเดิมต่อไป
นายจักรัตน์กล่าวว่า ตอนนี้กำลังจะมีการนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ จึงขอให้อดใจรอคาดว่าราวต้นเดือนหน้าจะเรียบร้อย จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของตนและส.ส.พิมพ์พรไปผลักดันให้รัฐบาลมีแนวทางช่วยหลือ ขณะนี้ประเทศเข้าสู่ประชาธิปไตยและมีตัวแทนประชาชนแล้ว รัฐบาลต้องรับฟังโดยเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้จึงอยากให้ทุกคนมีความหวังไปด้วยกัน
จากนั้น ส.ส.เพชรบูรณ์พรรคพลังประชารัฐทั้งสองคน ยังกล่าวขอร้องเกษตรกรห้ามเลิกปลูกยาสูบ เพราะเป็นอาชีพที่ตกทอดมาจากบรรพบุรษ ไม่เช่นนั้นแล้วตนในฐานะผู้แทนจะไปมองหน้าใครได้
