เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2562 นางสุพิน สิงห์ศรี อายุ 63 ปี เจ้าของร้านผัดไทค่ายมวย หน้าสถานีรถไฟนครลำปาง เขตเทศบาลนครลำปาง ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง พี่สะใภ้อดีตนักมวยชื่อดัง “เบิกฤกษ์ ปิ่นสินชัย “ ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชลกรณีร้านถูกตัดกระแสไฟฟ้าแต่หลังไปชำระค่าไฟ แต่ทางกฟภ.ปล่อยกระแสไฟฟ้าช้าข้ามวันทั้งที่รับปากว่าจะปล่อยกระแสไฟฟ้าวันเดียวกัน ทำให้ของที่แช่ในตู้เย็นเกิดความเสียหายร้านต้องเสียเวลาปิดเพื่อรอกระแสไฟทำให้ตนเกิดความเสียหาย วอนอยากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำปางออกมาชี้แจงและอยากให้เป็นเคสตัวอย่าง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางนางสุพิน สิงห์ศรี เจ้าของร้านผัดไทค่ายมวย หน้าสถานีรถไฟนครลำปาง เพื่อสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น ซึ่งนางสุพินได้เล่ารายละเอียดให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2562 ร้านผัดไทของตนได้ถูกตัดไฟหลังเกินกำหนดชำระค่าไฟ จากนั้นเวลาประมาณ 13.44 น.วันเดียวกันตนได้เดินทางไปจ่ายค่าไฟฟ้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำปางหลังจ่ายเสร็จได้สอบถามพนักงานที่เค้าเตอร์ชำระค่าไฟว่าจะปล่อยกระแสไฟเมื่อไหร่เพราะว่าร้านขายอาหารต้องจำเป็นใช้ไฟฟ้าซึ่งพนักงานบอกว่าประมาณ 17.00 น.วันเดียวกันจากนั้นก็กลับมาเตรียมของที่ร้านเพื่อขายในช่วงเย็นและรอกระแสไฟฟ้ามา ก่อน 17.00 น. ก็พยายามโทรติดต่อทาง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำปาง จนหลังเวลา17.00 น.หลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งมีพนักงานรับสายบอกว่ายังไม่ถึงคิวและไม่เกิน 2 ทุ่ม จะต่อกระแสไฟให้ ตนก็ขายอาหารจนถึงค่ำประมาณ 1 ทุ่มกระแสไฟยังไม่มา จึงตัดสินบอกพนักงานปิดร้านเพราะว่าทำอะไรไม่ได้ร้านมืดสนิท คิดว่ากระแสอาจจะมาตอน 2 ทุ่ม จึงตัดสินใจกลับบ้าน
พอวันรุ่งขึ้นวันที่ 14 มิ.ย.2562 เวลาประมาณเที่ยงวัน กระแสไฟฟ้าก็มาตามปกติ แต่ของที่เตรียมไว้ขายที่แช่ตู้เย็นที่ร้านเกิดความเสียหายและรายได้ก็หายไป 1 วัน สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นตนไม่ได้ออกมาเรียกร้องอะไร แต่อยากให้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำปางออกมาชี้แจงปรับปรุงแก้ไขให้ตรงเวลาตามที่รับปากตามที่กำหนดไว้ เพราะว่าจะเป้นต้องใช้ไฟฟ้าจริงๆ และที่สำคัญอยากให้เป็นเคสตัวอย่างเพราะว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นทุกคนต้องได้รับความเดือดร้อนค้าขายก็ไม่ได้เงินก็ไม่มีใช้หมุนเวียนต่อไม่ทราบว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำปางจะคิดยังไง
ขณะเดียวกันทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำปางเพื่อสอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยทางรองผู้จัดการและหัวหน้าแผนกงาน ที่เกี่ยวข้องไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการ แต่รับปากจะสอบถามทุกแผนกงานที่เกี่ยวข้องก่อน และพร้อมชี้แจงภายหลังซึ่งความคืบหน้าจะได้นำเสนอให้ทราบต่อไป
