ศรีสะเกษ – นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎฯ ร่วมสืบสานประเพณีลงแขกดำนา บีบข้าวปุ่นแบบโบราณ
วันนี้ (23 มิ.ย. 62) ที่ วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ บ้านหว้าน ตำบลน้ำคำ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาร่วมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยการทำบุญใส่บาตรบนขัวสวรรค์ ลงแขกดำนาแบบดั่งเดิม ปล่อยนกสู่ฟ้าปล่อยปลาสู่น้ำ บีบข้าวปุ่นแบบโบราณ ทานแป้งข้าวปุ้นจี่ โดยมี นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านหว้าน นำชาวบ้านหว้าน และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมให้การต้อนรับ
นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เล่าว่า ที่บ้านหว้านแห่งนี้ ในทุกวันอาทิตย์ จะมีการทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ทุกเช้า พร้อมเปิดตลาดโบราณ จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองต่างๆ ทั้งอาหาร และของที่ระลึก จนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายว่า ที่วัดพระธาตุสุพรรณหงส์แห่งนี้จะเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงพระพุทธศาสนา ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ก็มักที่จะมาร่วมทำบุญใส่บาตรกันในเช้าของวันอาทิตย์ เพราะมีระยะทางใกล้ตัวเมืองศรีสะเกษ เพียง 5 กิโลเมตร
โดยวันนี้ได้จัดกิจกรรมขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อร่วมสนับสนุนงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 20 – 30 มิ.ย. 62 มีการทำบุญใส่บาตร การสืบสานประเพณีการลงแขกดำนา กิจกรรมปล่อยนกสู่ฟ้าปล่อยปลาลงน้ำ และพิเศษการบีบขนมจีน หรือ ข้าวปุ้น แบบโบราณของชนเผ่าลาว รวมทั้งการนำแป้งขนมจีน มาย่างไฟ หรือเรียก การจี่แป้งข้าวปุ้น เป็นขนมให้เด็กตั้งสมัยโบราณ ซึ่งหมู่บ้านหว้านแห่งนี้ ยังมีการอนุรักษ์เอาไว้ และเมื่อบีบแล้ว ก็จะมาทานข้าวปุ้น หรือขนมจีนฝีมือตนเอง ซึ่งอร่อยไม่เหมือนใคร
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า นับว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ เหมาะในการที่จะอนุรักษ์เอาไว้เป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวศรีสะเกษ ที่เข้ากับยุคสมัย ซึ่งทั้งชาวไทย และต่างชาตินิยมชมชอบกันมาก นับตั้งแต่การร่วมทำบุญใส่บาตรบนสะพานไม้ ที่ชาวบ้านเรียกว่า ขัว หรือการลงแขกดำนา สนุกมาก การนำควายมาจูงไถนา ก่อนที่จะลงมือปักดำต้นข้าว แบบดั่งเดิมของชาวนาไทย และที่สำคัญนับว่าเป็นครั้งแรกของตน รวมทั้งนายกเหล่ากาชาด รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยวที่มาในวันนี้หลายคน ตื่นตามาก กับการได้ร่วมกันบีบขนมจีน หรือ เรียกว่า บีบข้าวปุ้นแบบโบราณของชนเผ่าลาว
ตนก็พึ่งทราบว่าขนมจีนจะลอดช่องตกลงไปในหม้อน้ำร้อน ก่อนที่จะจับขึ้นมาเป็นเส้นขนมจีน และแถมมีการนำแป้งขนมจีนที่จะนำไปบีบ แอบเอามาจี่ หรือย่างไฟ ทานก่อนได้ด้วย อร่อยมาก ขอให้มีการอนุรักษ์ประเพณีแบบนี้เอาไว้ ให้ลูกหลาน เอาไว้ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดไปด้วย
