พระนครศรีอยุธยา-แกนนำพร้อมชาวบ้านนับพันเตรียมลุกฮือทวงคืน”หัวเสาตะลุง”ยื่นหนังสือผ่านรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึง”นายกตู่”ช่วยกู้ความรู้สึก คณาจารย์เจ้าของวังช้างตบเท่าแจ้งจับ”นักวิชาการอวดเก่ง”หมิ่นประมาท ชาวช้างทั่วประเทศฮึ่มพร้อมเยือนอยุธยา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว พ่อเมืองอ่างทองห่วงบานปลาย ร่ายยาวผ่านเพจท้องถิ่น
จากกรณีอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้บูรณะซ่อมแซมเพนียดคล้องช้าง และได้ทำการตัดหัวเสาตะลุงที่อยู่ด้านนอก โดยอ้างว่าได้ทำการซ่อมแซมตามภาพถ่ายชาวต่างชาติที่บันทึกเอาไว้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เคยมีการซ่อมแซมเสาตะลุงทุกต้นมีหัวถึงสามครั้ง มาคราวนี้กรมศิลปากรอ้างภาพถ่ายชาวต่างชาติตัดหัวเสาตะลุงทิ้ง ทำลายความรู้สึกชาวบ้านที่เคยเห็นมาชั่วอายุคน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์คัดค้าน มีการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง ขณะที่กรมศิลปากรกลับไม่ฟังเสียงประชาชน รองอธิบดีรักษาการแทนออกคำสั่งไล่”วังช้างอยุธยาแลเพนียด”ออกจากพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ฯภายใน 30 วันยิ่งสร้างกระแสคัดค้านขึ้นอย่างต่อเนื่อง มองว่ากรมศิลปากรไม่พอใจไม่ต่อสัญญาวังช้างอยุธยาแลเพนียด ขณะที่กรมศิลปากรมองว่าวังช้างอยู่เบื้องหลังการคัดค้าน เกิดกระแสกระหน่ำการกระทำของกรมศิลปากรอย่างหนักตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดชาวบ้านได้ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญานบรรพชนที่ปกปักรักษาเพนียดคล้องช้าง อีกทั้งยังเป็นการทำบุญให้กับเสาตะลุงที่ถูกตัดหัว ตามความเชื่อของชาวบ้านว่าเป็นเทพที่ดูแลเพนียดคล้องช้าง ซี่งถูกตัดหัวขาด นอกจากนั้นยังได้ประกอบพิธียกเสาตะลุงสองต้นที่ชาวบ้านช่วยกันแกะหัวเสาตะลุงขึ้นมา เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของเสาตะลุงที่ตัดหัวไป จากนั้นชาวบ้านนำโดยนายสันติ ขันธนิกร นายนพพร ขันธนิกร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา ได้รวมตัวชาวบ้านจำนวน 200 คน ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกันการตัดหัวเสาตะลุงจำนวนนับพันรายชื่อ ร้องเรียนกับนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และส.ส.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะผู้แทนของประชาชน เพื่อนำไปยื่นต่อพล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ในการทวงคืนหัวเสาตะลุงกลับมา ซึ่งนายเกื้อกูล ในฐานะผู้แทนราษฎรได้รับหนังสือร้องเรียนไว้เรียบร้อย และรับปากที่จะนำไปมอบให้กับนายกรัฐมนตรีเร็วที่สุด เพื่อพิจารณาในการทวงคืนหัวเสาตะลุง เพื่อเรียกความรู้สึกของประชาชนกลับมา
นายสันติ เปิดเผยว่าดีใจที่ผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกให้ความสนใจ และมารับหนังสือร้องเรียนด้วยตนเอง หลังจากนี้ไปทางตัวแทนชาวบ้านจะได้ไปทวงถามความคืบหน้าจากสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ที่นำเอกสารความคิดเห็นของประชาชนที่ทำประชาสังคมไปมอบให้อธิบดีกรมศิลปากร และดูว่าจะพิจารณาว่าอย่างไร นอกจากนี้จะเร่งติดตามความคืบหน้าของ ส.ต.ง. ในการตรวจสอบการใช้งบประมาณ 35 ล้านในการบูรณะซ่อมแซมเพนียดคล้องช้าง ซึ่งเชื่อว่าจะใช้งบประมาณไม่ตรงตามมาตรฐาน
นายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานมูลนิธิพระคชบาล เปิดเผยว่าขณะนี้ตนได้มอบหมายให้นายสมยศ สุขใจ ทนายความทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทวังช้างอยุธยาแลเพนียดไปแจ้งความดำเนินคดีกับนักวิชาการท่านหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวแทนกรมศิลปากร โดยกล่าวหาว่าวังช้างอยุธยาแลเพนียดบุกรุก ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความสับสนและดูหมิ่นเกลียดชัง โดยมีการเผยแพร่ผ่านทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งทราบว่า ดร.ดุลยพิชัย โกมลวาณิฃ นักวิชาการ ซึ่งถูกนักวิชาการคนเดียวกันพาดพิง เขียนใส่ร้ายให้เสียหาย ก็ได้มีการแจ้งความต่อจนท.ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ให้ดำเนินคดีกับนักวิชาการคนดังกล่าวเช่นกัน ในส่วนของวังช้างอยุธยาแลเพนียดที่รองอธิบดีกรมศิลปากรได้ออกหนังสือขับไล่ ภายใน 30 วัน ตนได้มอบหมายให้ทนายทำหนังสือคัดค้ายอุทรณ์คำสั่งดังกล่าวแล้ว และจะได้ทำการร้องศาลปกครองเพ่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นการออกคำสั่งโดยมิชอบ ทั้งนี้เนื่องจากการสั่งการครั้งนี้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างมาก
ด้านนางปราณี ด่านชัยวิโรจน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าช้างเป็นสีสันของจังหวัดฯ การเกิดของช้างไม่ได้เข้ามาเอง แต่เป็นการหารือของการท่องเที่ยว กรมศิลปากร ที่ต้องการสร้างสีสัน ให้มรดกโลกมีชีวิต เรื่องนี้จะต้องมีการหารือกัน เนื่องจากจะส่งผลกระทบอย่างมากในเรื่องของธุรกิจการท่องเที่ยวที่นับว่าเป็นจุดขายของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปแล้ว
เช่นเดียวกับนายเรวัต ประสงค์ ผวจ.อ่างทอง อดีตรองผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ยูเนสโก ประกาศให้ อยุธยา เป็น”มรดกโลกทางวัฒนธรรม” ไม่ใช่”โบราณสถานโบราณวัตถุ”อย่างเดียว เป็นการแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกันประกอบด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ วัฒนธรรมสายน้ำ วัฒนธรรมอาหาร ขนม การประกอบอาชีพ วัฒนธรรมประเพณี ความเจริญรุ่งเรือง การสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ศิลปวัฒนธรรม และที่สำคัญการดำรงชีวิตที่อยู่กันแบบพหุสังคม หน่วยงานที่เกี่ยวต้องแปลภาษาต่างประเทศขององค์การยูเนสโก ว่า”อยุธยามรดกโลก”มีความหมายหรือนิยามแห่งความเป็นจริงว่าอย่างไร ลดความเชื่อมั่นตัวเองลงมาแล้วหาประวัติศาสตร์ที่เป็นความจริงมาพูดให้คนอยุธยาและคนไทยรู้ในสิ่งที่เป็นความจริงด้วยครับ ไม่ต้องอ้างต่างประเทศหรือองค์กรใดๆ ครับ เราคนไทยต้องยึดถือประวัติศาสตร์ไทยไม่ใช่ยึดตำราต่างชาติ ท่านผู้รู้คงจะได้ดูเรื่อง”บุพเพสันนิวาส”ที่ต่างชาติทำให้เรารบราฆ่าฟันกันแล้วเราเป็นคนไทยจะเอาประวัติศาสตร์ชาติไทยมาจากต่างชาติคงจะไม่ถูกต้องครับ ต้องอยู่กันแบบวินวินครับ โดยไม่มีใครเสียหายต้องดูองค์ประกอบควบคู่กันไปการท่องเที่ยว รายได้จากการท่องเที่ยว อาชีพของประชาชน ทั้งผลิตสินค้า การบริโภคอาหาร ที่พัก การขนส่ง ของฝากของที่ระลึก ร้านอาหาร เด็กที่ให้บริการตามร้านอาหาร คนทำอาหาร ปัญหาที่จะตามมา ใครจะแก้ ต้องมองทุกองคาพยพอย่ามองด้านเดียว สิ่งที่คนอยุธยาพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวในอดีตรวมทั้งหอการค้า กรมศิลปากร ททท.และภาคประชาสังคมร่มกันทำมา ควรนำรายงานการประชุมมาประกอบเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น
ด้านนายสุรสิทธิ์ มุทสาหิม คณะทำงานการแก้ไขปัญหาช้างแห่งชาติ กล่าวว่าการขับไล่ช้างออกจากโบราณสถานนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เชื่อว่ามาจากความไม่พอใจของกรมศิลปากร ขณะนี้ชาวช้างทั่วประเทศมีการหารือกัน หากมีการขับไล่จริง ไม่ให้ความเป็นธรรมกับชาวช้าง ก็เชื่อว่ากลุ่มผู้ประกอบการช้างก็จะนำช้างจากต่างจังหวัดมาให้กำลังใจช้างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยากให้มองว่าการเกิดวังช้างอยุธยาแลเพนียด นอกจากส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดฯแล้ว ยังเป็นการแก้ไขปัญหาของช้างที่เร่ร่อน ไม่มีงานทำ และทำให้ช้างได้เกิดขึ้นมาอีกจำนวนมาก ซึ่งการที่จะให้ช้างไปอยู่ป่าอีก เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากช้างส่วนใหญ่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีช้างเกิดในเมืองมากกว่า 80 เชือกแล้ว
ทางด้านสถาบันอยุธยาศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา จัดการบรรยายโครงการอบรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ห้องประชุมต้นโมก อาคารบรรณราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 4 ก.ค.62 เวลา 13.00 น.-16.00 น. ในหัวข้อ ถอดบทเรียนการอนุรักษ์ศิลปกรรมท้องถิ่น กรณีศึกษา โบราณสถานเพนียดคล้องช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี ศ.(พิเศษ)ศรีศักร วัลลิโภดม มาบรรยาย
