ระนองห่วงวัณโรคระบาดหลังพบผู้ป่วยพุ่งกว่า300รายต่อปี
ระนอง-สสจ.ระนอง เตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติวัณโรค “เดิน วิ่ง ปั่นรวมพลังยุติวัณโรค 11 มี.ค. 2561” หลังพบผู้ป่วยวัณโรคในพื้นที่เพิ่มขึ้นรายใหม่ทั้งชาวไทยและแรงงานต่างด้าวพุ่งสูงกว่า 300 รายต่อปี เหตุจากปัญหาการทะลักเข้ามาของแรงงานผิดกฏหมายทำให้ยากต่อการควบคุม
นพ.นรเทพ อัศวะพัชระ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า ทาง สสจ.ระนอง เตรียมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ยุติการแพร่ระบาดวัณโรคในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.ระนอง “เดิน วิ่ง ปั่นรวมพลังยุติวัณโรค 11 มี.ค. 2561” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจ มีความรู้และตื่นตัวในการร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของวัณโภคที่ปัจจุบันพบว่าวัณโรคได้กลับมาระบาดในพื้นที่ จ.ระนองอีกครั้งอันเป็นผลมาจากการเคลื่อนย้ายแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านทำให้ยากต่อการควบคุมแม้จะมีมาตรการตรวจสุขภาพผู้ใช้แรงงานก่อนที่จะออกใบอนุญาตการทำงานในไทยแต่ก็ยังพบว่าพื้นที่ชายแดนมีการเดินทางไปมาหาสู่กันและกันได้ง่ายในขณะที่ผู้ป่วยมีทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัวเองจึงทำให้กลายเป็นพาหะนำโรควัณโรคเข้ามาแพร่กระจายในพื้นที่
หลังเปิดประชาคมอาเซียน(AEC) ในปี 2558 จะมีประชาชนในกลุ่มประเทศอาเซียนเดินทางไปมาหาสู่ติดต่อกันมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางผ่านด้าน จ.ระนอง-เกาะสองที่จะเป็นช่องทางในการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย-พม่า ซึ่งจะทำให้เป็นช่องว่างทำให้โรคระบาด โรคติดต่อ กลุ่มโรคดื้อยามีการแพร่ระบาดเข้ามายังประเทศไทย เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านรอบๆประเทศไทยส่วนใหญ่สาธารณสุขจะด้อยกว่าไทยและยังมีโรคระบาดและโรคติดต่อที่หลายประเทศยังไม่มีการควบคุมที่ดีพอ
โรคระบาดตามแนวพื้นที่ชายแดนที่ต้องเฝ้าระวังมีหลายโรคได้แก่โรคมาลาเรีย,โรคเอดส์,โรคเท้าช้าง,โรคไข้เลือดออก,โรคกาฬโรค,โรคไข้รากสาด,โรคเรื้อน,โรควัณโรคฯ ซึ่งจำเป็นที่ฝ่ายไทยจะต้องเร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะหากสามารถเตรียมการได้ดีก็สามารถรับมือและสกัดการแพร่ระบาดของโรคเข้าสู่ประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของนโยบายระดับชาติที่เตรียมดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคตามแนวพื้นที่ชายแดน คือการสร้างโรงพยาบาลตามแนวชายแดนเพื่อเป็นสถานบริการรักษาโรคตามแนวชายแดน สกัดการทะลักเข้าไปรับการรักษาในพื้นที่จังหวัดชั้นใน เพราะหากผู้ป่วยโรคติดต่อร้ายแรงมีการเดินทางเป็นระยะทางยาวมากเท่าไหร่ความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคก็จะมีเพิ่มมากขึ้น
ในส่วนของจังหวัดระนองที่ดำเนินการในขณะนี้คือการเตรียมพร้อมอาสาสมัครประจำหมู่บ้านรวม 2910 คนในพื้นที่ 5 อำเภอ 47 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป็นกำลังสำคัญในการปกป้องภัยร้ายแรงของโรคระบาดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดย อสม.จะมีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวังชุมชน ในการกระจายข้อมูลความรู้ต่างๆ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายแกนนำลงไปถึงระดับครอบครัวเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสุขภาพให้กับคนไทย ด้วยมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมสุขภาพประชาชนในท้องถิ่นและชุมชน การดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ การดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล การเฝ้าระวังโรคในชุมชนอย่างเป็นระบบ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: