สมาคมนักสำรวจภัย ผู้ประกอบการเซอร์เวย์เยอร์ด้านประกันภัย รวมกลุ่มปรับตัวรับพื้นที่การพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รอการเติบโตขยายตัวของชุมชนเมืองและภาคธุรกิจการขนส่งครั้งใหญ่ เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการต่อประชาชนผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการพัฒนาปรับปรุงระบบในการนำนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้
วันที่ 27 มิ.ย.62 เวลา 13.30 น. ที่บริษัทสยามมิตรเซอร์เวย์ ตั้งอยู่เลขที่ 33 หมู่ 3 ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา นายสันติ เตียงงา อุปนายกสมาคมเซอร์เวย์ประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคม ได้จัดการประชุมกลุ่มสมาชิก “สมาคมเชอร์เวย์ประเทศไทย” โซนภาคตะวันออก เพื่อร่วมหารือในการประสานความร่วมมือการทำงาน และรับงานจากบริษัทประกันภัยผู้ว่าจ้าง
ตลอดจนการพัฒนานำเอาระบบ เทคโนโลยีสมัยใหม่ (เอไอ) เข้ามาใช้ในการให้บริการแก่ประชาชนผู้ประสบภัย หรือเกิดอุบัติเหตุตามท้องถนนให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดหลังจากเกิดอุบัติเหตุ และลดเวลาในการรอคอยการเคลมประกันภัย จากพนักงานผู้มาให้บริการ
โดยเฉพาะในพื้นที่กำลังมีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจภาคตะวันออก เนื่องจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง นั้นอยู่ในพื้นที่เขตการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะมีการจราจรที่หนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นจากปริมาณผู้ใช้รถใช้ถนนในการสัญจรขนส่งสินค้า ตลอดจนการขยายตัวของระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ ประกอบกับยังมีผู้ที่ไม่รู้หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการจราจร ที่อาจเกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย
โดยนายสันติ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประชุมวาระเร่งด่วน ซึ่งตนได้รับมอบหมายจาก นายกฤตาคม นิติวรธรรม นายกสมาคมเชอร์เวย์ประเทศไทย ให้จัดการประชุมในส่วนของสมาชิกในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรานั้นเป็นประตูหน้าด่านของกลุ่มจังหวัดอีอีซี ซึ่งในอนาคตจะมีระบบภาคการขนส่งโลจิสติกส์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสมาคมเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในด้านการสำรวจภัยยานยนต์ในงานด้านอุบัติเหตุ
และในอนาคตจะมีรถเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จึงมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างสูง สมาคมจึงตระหนักว่า จะทำอย่างไรจึงจะทำให้ผู้ถือกรมธรรม์ได้รับการบริการอย่างทั่วถึง รวดเร็วและลดปัญหาทางด้านการจราจร
ตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา หลังการก่อตั้งสมาคมได้สร้างศักยภาพด้านงานบริการเพิ่มขึ้นด้วยการนำเอาระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ (เอไอ) เข้ามาใช้ในวงการประกันภัย ในการตรวจสอบอุบัติเหตุ ด้วยการออกหลักฐานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้บริโภคหรือผู้ถือกรมธรรม์ได้รับประโยชน์สูงสุดได้รับข้อมูลและการบริการที่ชัดเจนเป็นธรรมตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ นายสันติ กล่าว
ด้าน นายชำนาญ ชาติพจน์ เจ้าของบริษัทเมก้าออโตเคลม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 369/105 ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ปรึกษาสมาคมฯ กล่าวว่า ระบบเทคโนโลยีการสำรวจภัยที่เรานำเข้ามาใช้ในกลุ่มสมาชิกของสมาคมนั้น ได้เริ่มมีการพัฒนาเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค.61 ที่ผ่านมา แม้จะยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์แต่เราได้เริ่มนำออกมาใช้แล้ว โดยคาดว่าอีกประมาณ 3 เดือนระบบจะมีความสมบูรณ์มากขึ้น
ซึ่งระบบเอไอ ที่นำมาใช้จะสามารถถ่ายภาพรายงานอุบัติเหตุ เพื่อทำเคลมประกันภัยแบบเรียลไทม์ ได้ทันที ทั้งการถ่ายภาพหลักฐานของผู้เคลมเอาประกันจากบัตรประชาชนและใบขับขี่ ผ่านเข้าระบบประมวลผลออกมาเป็นตัวหนังสือได้อีกด้วย โดยที่พนักงานไม่ต้องเสียเวลาในการป้อนข้อมูลใหม่และสามารถส่งต่อไปยังบริษัทประกันภัยได้ในทันทีเช่นกัน
จึงทำให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ในการทำงานสำรวจภัยจากอุบัติเหตุ และทำให้มีการจ่ายค่าชดเชยสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็วขึ้นด้วย นายชำนาญ กล่าว
