สระแก้ว – การรถไฟแห่งประเทศไทยขยายเส้นทาง รถไฟสาย “กรุงเทพฯ-อรัญประเทศ-ตลาดโรงเกลือ” เริ่มเปิดให้บริการแล้ววันนี้ โดยปลายทางขบวนรถไฟสามารถนั่งไปได้ถึงบริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ระยะทาง 260 กม. ค่าโดยสารเพียง 49 บาท โดยเปิดวิ่งวันละ 4 ขบวน ผู้โดยสาร ระบุ ช่วยให้สามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น อยากให้เปิดไปจนถึงฝั่งประเทศกัมพูชาโดยเร็ว
เมื่อเวลา 06.58 น.วันที่ 1 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก(ตลาดโรงเกลือ) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดขยายเส้นทางปลายทางขบวนรถธรรมดาที่ 275/276 และ 279/280 (กรุงเทพ-อรัญประเทศ-กรุงเทพ) จากสถานีอรัญประเทศถึงสถานีด่านพรมแดนบ้านคลองลึก(ตลาดโรงเกลือ) เที่ยวไป-กลับ 4 ขบวน ต่อวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา โดยเริ่มให้บริการเที่ยวแรกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งบรรยากาศที่หน้าช่องจำหน่ายตั๋วมีชาวไทยมาต่อคิวตีตั๋วเพื่อใช้บริการเที่ยวแรก จำนวน 15 คน
ข่าวน่าสนใจ:
- จับงูเหลือมยักษ์ขนาดใหญ่ยาวกว่า 4 เมตร เข้าร้านข้าวต้มชื่อดังกลางเมืองอรัญประเทศ
- รมว.ท่องเที่ยว ชวนลอยกระทง "สีสันแห่งสายน้ำฯ" สร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- วธ.จัด“ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” น้อง“หมูเด้ง” Thai Cuteness ร่วมสร้างสีสัน
- ททท.เตรียมเปิดตัวการแข่งขันวิ่งเทรลไตรบูรพาซีรีย์ 4 สนาม 3 จังหวัดภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว
สำหรับการเปิดการเดินรถไฟดังกล่าว ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดเดินรถไฟสายประวัติศาสตร์ ภายหลังมีการลงนามความตกลงการเดินรถไฟร่วมกัน ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มอบรถดีเซลราง จำนวน 4 คัน และเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเชื่อมการเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศ และส่งเสริมให้การเดินรถไฟสายตะวันออก มีความสะดวกสบายมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่การรถไฟ แจ้งว่า ตารางเวลาเดินรถรถไฟได้มีการปรับเปลี่ยนปลายทางใหม่ จากเดิม จากกรุงเทพ-อรัญประเทศ-กรุงเทพ ขยายเส้นทางไปจนถึงสถานีด่านพรมแดนบ้านคลองลึก(ตลาดโรงเกลือ) จ.สระแก้ว ระยะทางรวม 260 กม. ค่าโดยสาร 49 บาท โดยทั้ง 4 ขบวน มีเที่ยวไป ขบวนรถธรรมดาที่ 275 กรุงเทพ-อรัญประเทศ-คลองลึก ออกจากกรุงเทพ เวลา 05.55 น. ถึงด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เวลา 11.17 น. ,ขบวนรถธรรมดาที่ 279 กรุงเทพ-อรัญประเทศ-คลองลึก ออกจากกรุงเทพ เวลา 13.05 น. ถึงด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เวลา 17.27 น. ส่วนเที่ยวกลับ ขบวนรถธรรมดาที่ 280 คลองลึก-อรัญประเทศ-กรุงเทพ ออกจากด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เวลา 06.58 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 12.05 น. และขบวนรถธรรมดาที่ 276 คลองลึก-อรัญประเทศ-กรุงเทพ ออกจากด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เวลา 13.53 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 19.40 น.
นางกมลวรรณ เกตสวัสดิวงศ์ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1350/644 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ หนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวปฐมฤกษ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีรถไฟมาถึงที่ด่านคลองลึกตลาดโรงเกลือ จะได้ไม่ต้องเดินทางลำบาก ซึ่งปกติตนใช้บริการรถโดยสารสาธารณะทุกชนิดตั้งแต่รถตู้ รถทัวร์ หรือ รถ บขส. และรถไฟ เส้นทางระหว่างกรุงเทพมาที่ด่านพรหมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เพราะต้องมาทำทัวร์กับเพื่อน ๆ ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาอยู่เรื่อย ๆ
“การเปิดเดินรถไฟเส้นนี้ ช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศได้อยู่แล้ว เพราะนักท่องเที่ยวฝรั่งที่ขึ้นมาเบียดเราเยอะมาก ที่ต้องผ่านด่านชายแดนไปทำวีซ่า เมื่อมีรถไฟมาถึงเลยก็จะสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวจะได้มากันเยอะ ๆ และอยากให้เปิดเส้นทางไปฝั่งประเทศกัมพูชาเร็ว ๆ เราจะได้ไปเที่ยวฝั่งกัมพูชาสะดวกขึ้น” นางกมลวรรณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเปิดเดินรถไฟขบวนแรกที่ออกจากสถานีรถไฟบริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทุกขบวน จะมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นำโดย ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจสอบความเรียบร้อยและสิ่งผิดกฎหมายบนขบวนรถไฟทุกเที่ยวด้วย ซึ่งการขยายปลายทางขบวนรถไฟสายดังกล่าวครั้งนี้ คาดว่า จะสามารถตอบโจทย์การเดินทางด้วยรถไฟของประชาชนที่ต้องการจะเดินทางไปยังตลาดโรงเกลือให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนการค้าชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งหลังการขยายเส้นทางอย่างเป็นทางการแล้ว จะทำให้มียอดผู้ใช้บริการรถไฟเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยประชาชนที่ต้องการเดินทางด้วยรถไฟเที่ยวนี้ สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง
——————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: