ชัยภูมิ – ของชาวชัยภูมิสุดสะเทือนใจหนัก อ้างหน่วยงานเส้นใหญ่ยังไม่เลิก ว่าได้รับอนุญาตจากทุกฝ่ายแล้ว โดยไม่เห็นหัวคนพื้นที่ชาวชัยภูมิยังไม่ยอมหยุดสร้างกระแสดราม่าโชว์ภาพลุยทุ่งกระเจียวยังไม่ยอมรับผิดอีก ที่ยังมีการอ้างว่ามีทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พาให้เข้ามาดำเนินการลุยถ่ายภาพได้ในทุ่งได้โดยไม่ผิดระเบียบ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบใหม่ ชวนพาเที่ยวแบบเที่ยวลุยเหยียบกลางทุ่งกระเจียวได้ไม่ผิดระเบียบกรมอุทยานฯ ชาวบ้านจี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาแสดงความรับผิดชอบและขอโทษชาวชัยภูมิ ด่วน!
และไม่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลงทางในการเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงนิเวศน์แบบผิดๆ อีก! ซึ่งไม่ใช่เข้ามาส่งเสริมเพื่อทำลาย เพราะที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวชมทุ่งดอกระเจียวบานที่ จ.ชัยภูมิ ไม่เป้าหมายหลักการส่งเสริมท่องเที่ยวไม่อยากให้ใครกล้าทำในลักษณะนี้ จนสามารถช่วยกันอนุรักษ์ทุ่งดอกกระเจียวบานอยู่คู่จ.ชัยภูมิมาได้จนปัจจุบัน และถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ ที่อยู่คู่เมืองพญาแลมายาวนาน และติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลกมายาวนาน
ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ผ่านมา มีกฎกติกาในการเข้ามาท่องเที่ยวร่วมกันว่าจะไม่ปล่อยให้ จนท.หรือใคร แม้กระทั่งชาวบ้านในพื้นที่หรือนักท่องเที่ยวทุกคนลงไปเหยียบย่ำในทุ่งกระเจียวบานได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งก็เคยถูกดำเนินการตามระเบียบกรมอุทยานฯในแต่ละแห่งที่มีระเบียบร่วมกันว่าจะมีโทษจากสถานเบาทั้งตักเตือน โทษปรับ และกล่าวขอโทษชาวชัยภูมิ มาแล้วหลายราย ซึ่งไม่อยากให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชนและให้ใครทำเป็นเยื้องอย่างแบบนี้อีกในครั้งนี้ด้วย!
( 1 ก.ค.62 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ยังกลายเป็นเรื่องกระแสดราม่าไม่เลิกต่อเนื่อง หลังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวบาน ที่จ.ชัยภูมิ ที่จะมีขึ้นเป็นประจำทุกปีหรือหนึ่งปีมีให้ชมครั้งเดียวระหว่างเดือน มิ.ย.-ก.ย.ของทุกปี ซึ่งจ.ชัยภูมิ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญขึ้นชื่อติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 แหล่งท่องเที่ยวเมืองไทยห้ามพลาดของโลกในปัจจุบัน ที่จะเปิดให้ชมทุ่งดอกกระเจียวบานในช่วงนี้รวม 2 แห่งหลัก ทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต และที่เขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว
แต่ในปัจจุบันได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านเข้ามาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวบานในปีนี้ มาแปลกมีการให้ทีมงานเข้ามาดำเนินการถ่ายภาพหวังที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวชมทุ่งดอกระเจียวบานที่จ.ชัยภูมิ แนวแปลกใหม่มากขึ้น และมีการอ้างว่ามีการได้รับอนุญาตจากส่วนกลาง ทั้งทางจังหวัดและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้งหมดแล้ว เพื่อที่จะเข้ามาดำเนินการจัดหานางแบบมาถ่ายภาพในทุ่งดอกกระเจียว ไปโปรโมทเชิญชวนคนมาท่องเที่ยวให้มากขึ้นในปีนี้ แบบมีจุดที่อนุญาตให้ลงไปสัมผัสและเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียวที่เขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง ของจ.ชัยภูมิ ได้ในปีนี้
จนเกิดกระแสการถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกโซเชียลจำนวนมากอยู่ในขณะนี้ มาต่อเนื่องหนักตั้งแต่ช่วงวันที่ 26 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา ต่างมีคนไปพบภาพที่มีการนำไปโปรโมทในเพจของหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งนี้ ที่ชาวบ้านในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ส่วนใหญ่ที่พบเห็นต่างสะเทือนใจในการเข้ามาดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ขัดต่อความรู้สึกในการช่วยกันอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชมทุ่งดอกกระเจียวบานที่เกิดความอุดมสมบูรณ์มาได้จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศไทยติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาด 10 แห่งของประเทศไทยมาได้จนปัจจุบัน
และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกรณีที่มีการปล่อยให้มีการลงไปถ่ายภาพเหยียบย่ำในทุ่งดกอกระเจียวบานในครั้งนี้นั้น เร่งออกมาแสดงความรับผิดชอบ ว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 157 ด้วยหรือไม่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องควรที่จะออกมาขอโทษชาวชัยภูมิ ที่มีการเข้ามาทำการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบผิดๆ ที่ควรจะเข้ามาส่งเสริมไม่ใช่ มาส่งเสริมแบบทำลายระบบนิเวศน์ขนาดนี้ได้อีกต่อไปด้วย
รวมทั้งได้มีเพจเฟชบุ๊คกู้ภัยสว่างคุณธรรม (sawanggunnatum) และเพจชัยภูมินิวส์ ทีวี ได้มีการแชร์ภาพไม่เหมาะสมในการลงไปกระทำ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องในหน่วยงานดังกล่าวในการลุยเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียวและลงไปถ่ายภาพเซลฟี่แบบติดดอกกระเจียว จากเพจ อีสาน.com
จนล่าสุดทาง 2 เพจดังชัยภูมิ ได้รับการติดต่อชี้แจงต่อจากทางจ.ชัยภูมิ เพื่อขอให้ลบภาพและข้อมูลที่มาภาพจากแหล่งหน่วยงานที่เข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวครั้งนี้ดังกล่าวออกไปแล้ว โดยระบุว่า ทางหัวหน้าอุทยานฯในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ที่เกี่ยวข้องได้ประสานไปยัง สํานักงานภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (การท่องเที่ยว) โดยได้ลบภาพดังกล่าวในสื่อโซเชียล และว่ากล่าวตักเตือนตามระเบียบของอุทยานฯ เกี่ยวกับภาพที่ทางเพจได้นำเสนอไปก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งระบุว่า ตามที่ เพจเที่ยวอีสาน.comได้โพสต์ภาพที่มีบุคคลลงไปถ่ายรูปในทุ่งดอกกระเจียว และมีกระแสวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสม เป็นจำนวนมากนั้น
ทางเพจเที่ยวอีสาน.com ได้ดำเนินการลบภาพดังกล่าวออกจากเพจเรียบร้อยแล้ว พร้อมขออภัยเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ได้มีเจตนา เพียงอยากได้ภาพสวย ๆ เพื่อการประชาสัมพันธ์เท่านั้น จึงขอให้แอดมินเพจกู้ภัยสว่างคุณธรรม (Sawangkunnatum) และ เพจชัยภูมิ นิวส์ทีวี ลบโพสต์ดังกล่าวออกจากหน้าเพจ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและเสียบรรยากาศของการท่องเที่ยวภายในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเบื้องต้นเรื่องนี้ก็น่าจะจบลงด้วยดีแล้ว
แต่ล่าสุด ยังได้มี FB.ที่ใช้ชื่ออีกรายหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการถ่ายภาพครั้งนี้ ยังโพสต์ระบุข้อความพร้อมภาพดังกล่าวออกมาอีกยังไม่หยุดต่อเนื่องซ้ำอีก และมีการระบุข้อความต่อว่า กรณีที่เกิดขึ้นอีกว่า งานที่เกิดขึ้นเกิดจากส่วนกลางของจังหวัดชัยภูมิ ที่มีผู้ใหญ่ของจังหวัดชัยภูมิจัดขึ้น แต่ทางเพจทั้งสองเพจได้ลงข่าวมั่วมาก (ทั้งที่ทั้ง 2 เพจดังกล่าวได้รับการขอความร่วมมือจากทางจังหวัดได้ลบภาพข้อความที่เกิดขึ้นไปหมดแล้ว) แต่เจ้าของ FB.รายนี้ ยังออกมาสร้างกระแสดราม่าโจมตีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้น้องนายแบบนางแบบเสียหายโดนด่าโดนคอมเม้นต์ต่างๆ นาๆ อีกทั้ง เจ้าของ FB.รายนี้ยังไม่ได้ลบข้อมูลดังกล่าวตามที่ทาง จ.ชัยภูมิ แจ้งประสานมาเลย และยังมีการนำภาพลุยถ่ายภาพในทุ่งดอกกระเจียว โพสต์ออกมาสร้างแบบอย่างไม่ดีต่อคนที่พบเห็นและสร้างความรู้สึกไม่ดี ซึ่งหลังมีชาวชัยภูมิจำนวนมากยังเข้าไปพบภาพดังกล่าวอยู่อีก ซึ่งเป็นการย่ำใจจิตใจของชาวชัยภูมิ ครั้งนี้อีกยังไม่หยุดต่อเนื่อง
รวมทั้งทางหน่วยงานจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติไทรทองหรือป่าหินงามระบุแล้ว ก่อนที่จะให้เพจดังกล่าวขอความร่วมมือลบภาพออกไป ว่าไม่สามารถลงไปหยิบหรือจับดอกกระเจียวได้ทั้ง 2 แห่งในเขตอุทยานฯ ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อระเบียบอุทยานฯ ทั้งนี้ หาก FB.รายนี้ยังไม่ยอมลบภาพออกหรือหยุดพฤติกรรมดังกล่าวอีก ทางจนท.อุทยานฯจะต้องเชิญเจ้าตัวมาแสดงความรับผิดชอบของการกระทำในครั้งนี้ต่อไปด้วย
โดยล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในอุทยานแห่งชาติไทรทองก็พบว่ามีป้ายห้ามลงทุ่งดอกกระเจียวติดอยู่ในทุกจุดในบริเวณใกล้ทุ่งดอกระเจียวบาน ทั้งนี้ยังได้สอบถามไปยังชาวบ้าน ชาวชัยภูมิ ที่อยู่ในพื้นที่เกี่ยวกับความเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่เกี่ยวกับการลงทุ่งดอกกระเจียวไปถ่ายภาพได้ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างพากัน ออกมาต่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการด่วนด้วย และคนที่ลงไปเหยียบย่ำในทุ่งดอกระเจียวถือเป็นการย่ำยีจิตใจชาวชัยภูมิ เป็นอย่างมากด้วย และควรที่จะออกมาขอโทษเหมือนที่ผ่านมาเองก็เคยมีนักท่องเที่ยวหลายครั้งที่ผ่านมา ก็เคยทำปฏิบัติกันมาทั้งถูกปรับ และออกมาขอโทษต่อเหตุกาณณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะเกิดความเสียหายต่อทุ่งดอกระเจียวในอนาคตตามาได้อีกจำนวนมาก
และครั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่น่าจะเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบผิดๆอย่างนี้ ไม่อยากให้เข้ามาส่งเสริมเพื่อทำลาย ซึ่งหากจะคิดส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบนี้ ก็ควรจะถามคนพื้นที่บ้างที่มีทุ่งกระเจียวมาให้ชมได้ทุกวันนี้ ก็เพราะชาวชัยภูมิ ทุกคนช่วยกันไม่มีใครเคยคิดจะลงไปเหยียบย่ำในทุ่งได้ขนาดนี้เลยด้วย
ซึ่งถือเป็นการกระทำของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องควรรีบออกมารับผิดชอบเป็นการด่วนด้วย เพราะเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง ซึ่งชาวบ้าน ชาวชัยภูมิที่นี่เห็นทุ่งดอกกระเจียวมาตั้งแต่เกิด และไม่อยากให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมลงไปสัมผัสหรือจับดอกกระเจียวแล้วมานำเสนอเพื่อเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี แบบนี้อีก
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริง เพื่อขอพบ นายวรพล ดีปราศรัย หน.อุทยานแห่งชาติไทรทอง ซึ่งติดราชการไม่อยู่ในพื้นที่ก็ได้ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ต่อกรณีที่เกิดขึ้น กรณีที่มีภาพดังกล่าว ที่มีผู้นำไปโพสต์ใน FB. ดังกล่าว ทางอช.ไทรทองได้มอบหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่ในอช.จำนวน 2 นาย อำนวยความสะดวกพานักท่องเที่ยวนางแบบและสร้างภาพดังกล่าว เพื่อเข้าพื้นที่เก็บภาพชมดอกกระเจียวในทุ่งที่ 3 ซึ่งริมทางเดินและบริเวณจุดกลางจะมีต้นกระเจียวโผล่ขึ้นมาสามารถให้นักท่องเที่ยวหรือช่างภาพเข้าไปถ่ายตามปกติได้ โดยระหว่างทางจะมีป้ายบ่งบอกอย่างชัดเจน ว่าห้ามเข้าไปในทุ่ง ติดไว้เป็นระยะตามแนวทางเดิน จนเสร็จสิ้นงานต่อมาก็ได้เห็นภาพและเป็นกระแสดังอยู่บนโลกโซเชียลจำนวนมากในขณะนี้อีก ว่ามีลักษณะคล้ายการเข้าไปถ่ายภาพลุยเหยียบภายในทุ่งดอกกระเจียวนั้น
ซึ่งตนเองจึงได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ที่ค่อยอำนวยความสะดวกทั้ง 2 นาย แล้วว่าก็ได้พาไปจุดที่สามารถถ่ายภาพได้เท่านั้น แต่ก็ไม่ได้คอยตามดูอยู่ตลอดเวลาด้วย จนมีภาพลุยเข้าไปในทุ่งกระเจียวดังกล่าวออกมา ซึ่งก็ได้ประสานไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของคณะมาถ่ายภาพครั้งนี้แล้วว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะและขัดต่อระเบียบข้อบังคับของอุทยานฯด้วย ควรงดการนำเสนอภาพดังกล่าวทั้งหมดด้วย เพื่อไม่ให้เกิดแบบอย่างที่ไม่ดีในการท่องเที่ยว ที่เสี่ยงจะเกิดการเลียนแบบสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศฯการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของทุ่งดอกระเจียวในช่วงนี้ตามมาต่อไปในอนาคตได้
