เครือข่ายต้นไม้ในเมือง พร้อมด้วยองค์กรภาคประชาชน บุกยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียกร้องให้ตรวจสอบธรรมาภิบาลของบริษัทอิตาเลียนไทยฯ กรณีตัดต้นไม้หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยไม่รอการอนุมัติ
กรณีเพจ เฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์ เปิดเผยภาพต้นนนทรี 14 ต้น บริเวณริมถนนพหลโยธิน หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ถูกตัดจนเหี้ยนเตียน และระบุว่า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ตัดต้นไม้เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต แต่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนตัด จนถูกกระแสสังคมกระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
วันนี้(7 มี.ค.61) กลุ่มตัวแทนภาคประชาชน ประกอบด้วย เครือข่ายต้นไม้ในเมือง , กลุ่มบิ๊กทรี , สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน , เพจเฮ้ย นี่มันฟุตบาทไทยแลนด์ , นายเดชรัตน์ สุขกำเนิด อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , กลุ่มจตุจักรโมเดล , ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเพจกรุงเทพเดินสบาย รวมตัวเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. ตรวจสอบว่า พฤติกรรมของบริษัทอิตาเลียนไทยฯ เข้าข่ายผิดธรรมาภิบาลหรือไม่ หากเข้าข่ายผิดธรรมาภิบาล ก็ขอให้พิจารณาลงโทษ เช่น มีคำสั่งหยุดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ช่อผกา วิริยานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายต้นไม้ในเมือง ระบุว่า ที่มายื่นหนังสือร้องเรียนกับ ก.ล.ต. เนื่่องจาก เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทอิตาเลียนไทยฯ เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศตัวเองว่ามีธรรมาภิบาล สร้างประโยชน์ให้กับสังคม โดยหนึ่งในนั้นคือการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่กลับมีการตัดต้นไม้โดยไม่ขออนุญาต ไม่เคารพในสมบัติของสาธารณชน
“บริษัทได้ดำเนินการตัดต้นไม้โดยขออนุญาตก่อนหรือไม่ หรือบริษัทตัดอย่างถูกต้องหรือไม่ จะต้องขอให้มีการตรวจสอบ ตัวผู้อำนวยการเขตเองก็ได้แจ้งกับตำรวจแล้ว นั่นแปลว่าเขตหรือ กทม. เองก็มองว่า อาจมีความไม่ถูกต้อง จึงตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทอิตาเลียนไทยฯ เป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ เคารพในกติกาของสังคมหรือไม่ รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ และเคารพในสมบัติของสาธาณชนหรือไม่ เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ”
ด้าน ปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและส่งเสริมความรู้ผู้ลงทุน ก.ล.ต. ตัวแทนรับเรื่องร้องเรียน เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องดีที่คนในสังคมให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และการที่สังคมมีบทบาทในการช่วยกันดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน ถือเป็นการผลักดันให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจ ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม และเมื่อเกิดการร้องเรียน ก็เป็นหน้าที่ของทางบริษัท ที่ต้องชี้แจงกับสังคม ว่ามีการปฏิบัติตามหลักที่ได้ประกาศไว้หรือไม่
“หลังจากรับเรื่องร้องเรียน จะแจ้งให้ทางบริษัทอิตาเลียนไทยฯทราบ เพื่อให้บริษัทพิจารณาดำเนินการตามสมควร ส่วน ก.ล.ต.ก็จะตรวจสอบว่า กรณีนี้อยู่ในขอบเขตของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ ซึ่งสาระสำคัญของกฏหมายนี้ จะเน้นตรวจสอบการปฏิบัติของบริษัทจดทะเบียน การทุจริตหรือฉ้อโกงผู้ถือหุ้น”
หลังจากยื่นหนังสือที่ ก.ล.ต.แล้ว กลุ่มตัวแทนภาคประชาชน จะเดินทางไปที่ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เพื่อยืนจดหมายต่อผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ด้วย
ก่อนหน้านี้ บริษัทอิตาเลียนไทย ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คว่า เป็นการรื้อย้ายต้นไม้ด้วยวิธีขุดล้อม แล้วยกต้นไม้ออกไปอนุบาลในพื้นที่ที่เตรียมไว้ ตามมาตรฐานการรือย้ายของกองสวนสาธารณะ เพื่อขยายถนนสำหรับการก่อสร้าง แต่ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ยืนยันว่า สำนักงานเขตยังไม่ได้อนุญาตให้ตัดต้นไม้ และจากข้อตกลงร่วมกัน หากจะทำการล้มย้ายต้นไม้ออกจากพื้นที่ก่อสร้าง ทางเขตจะเป็นผู้พิจารณา สำรวจและเคลื่อนย้ายเอง โดยทางบริษัทต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และทางเขตได้แจ้งความที่ สน.บางเขน เพื่อลงบันทึกประจำวัน เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 28,000 บาท ตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาด พ.ศ.2535 ว่าด้วยการตัดโค่นต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะ หรือตัดต้นไม้ที่ทางราชการปลูกไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: