ชัยภูมิ – ต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวบาน ที่มีให้ชมเพียงแห่งเดียวในโลก และครั้งเดียวในแต่ละช่วงของทุกปี ที่จ.ชัยภูมิ ระหว่างมิ.ย.-ก.ย.ของทุกปี นักท่องเที่ยวทะลักต่อเนื่อง กระจายรายได้สู่ชุมชนปีนี้คึกคัก แห่ชมชิมช็อปแชะภายในสวนผลไม้นานาชนิด รวมทั้งทุเรียนบนเทือกเขา “ภูแลนคา” เก่าย่าดี โซนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อติดอันดับโลกอีกแห่งที่เมืองชัยภูมิ “มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย”
( 9 ก.ค.62 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ บรรยากาศในช่วงเทศกาลที่ขึ้นชื่อที่สำคัญติดอันโลก แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในช่วงต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบานของทุกปี ที่มีให้ชมแห่งเดียวในโลกและหนึ่งปีมีให้ชมเพียงครั้งเดียวที่จ.ชัยภูมิ ในระหว่างช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย.ของทุกปี ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต และที่เขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ
ซึ่งในแต่ละปีจ.ชัยภูมิ จะได้รับความนิยมแห่เดินทางมาท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวบานมากกว่า 3-5 แสนคนต่อปี และส่วนหนึ่งก็ถือเป็นช่วงต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวช่วงหน้าฝน (ฤดูฝน) ไปจนถึงช่วงต้นหนาว (ฤดูหนาว) ของทุกปี ที่ต้องบอกว่าจ.ชัยภูมิ มีศักยภาพภมีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อติดอันดับโลกได้มาเที่ยวตลอดทั้งปี ครบ 3 ฤดู
โดยเฉพาะแหล่งจับจ่ายที่เป็นสินค้าช่วยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ชุมชนเป็นอย่างดี ที่มีสินค้าเกษตรสวนผลไม้นานาชนิด ขึ้นชื่อที่มีทั้งทุ้รียนโอโซนอ.เทพสถิต ที่ต้องมีการสั่งจองไว้รอชิมนำไปรับประทานกันนานข้ามปี และมีการขยายผลความเป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศที่ศักยภาพทางการเพาะปลูกสวนผลไม้ที่สำคัญขึ้นชื่ออีกแหล่ง ที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่สำคัญติดอันดับโลกในอีกจุดหนึ่ง ที่มอหินขาว ในเขต รอยต่อ 2 อำเภอของจ.ชัยภูมิ ทั้งที่เขตอ.เมือง และอ.แก้งคร้อ หรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเรียกกันติดปากว่าสวนหินล้านๆ ปีมอหินขาวสโตนเฮนจ์เมืองไทย
ที่ปัจจุบันกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่โซนนี้ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูแลนคา หลังในอดีตเคยประสบปัญหาการเพาะปลูกสับปะรด ราคาตกต่ำมาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่ส่วนหนึ่งจะหันมาทำสวนผลไม้อื่นๆ เข้ามาผสมผสาน ทั้งสวนทุเรียน และเงาะ ที่กลับกลายเป็นว่าได้ผลผลิตออกมาดีเกินคาด และมีการสร้างรายได้เข้าสู่คนในชุมชนจนมีผู้บริโภคสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวลุยชิม ชม ช็อป แชะ ถ่ายภาพความสวยงามกันถึงคาสวนและสั่งซื้อกันสดๆไม่ขาดสายในช่วงต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบานที่จ.ชัยภูมิ อย่างคึกคักไม่แพ้กัน
โดยนายวิษณุ ฉนังกลาง อายุ 36 ปี ชาวบ้านเลขที่ 87/1 หมู่ 2 บ้านห้วยหินลาด ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หนึ่งในกลุ่มเครือข่ายชาวบ้านเจ้าของสวนเงาะ-ทุเรียน “วิษณุ” เล่าว่าเมื่อประมาณ 4-5 ปี ก่อนที่จะมายืนยึดอาชีพทำสวนผลไม้ได้ขนาดนี้ ตัวเองกับพ่อ ได้นำสับปะรดภูแลนคา จ.ชัยภูมิ นำขึ้นรถ 6 ล้อไปส่งแถวจังหวัดระยอง และจังหวัดในโซนภาคตะวันออก ด้วยเห็นว่าปัญหาราคาสับปะรดเกิดปัญหาราคาตกต่ำบ่อยครั้ง และระหว่างเดินทางกลับชัยภูมิ แต่ละครั้งก็จะมีสวนต้นกล้าผลไม้ข้างทางติดป้ายขายในราคาไม่แพง ทั้งเงาะ ทุเรียน ก็เลยเกิดความคิดว่าบ้านเราที่ชัยภูมิ โดยเฉพาะที่บ้านห้วยหินลาด ต.เก่าย่าดี อ.แก้งคร้อ ซึ่งเป็นพื้นที่เชิงภูเขา ดินอุดมสมบูรณ์ ระบบน้ำคลองตามธรรมชาติก็พอมี ก็เลยคิดอยากทดลองปลูกผลไม้ ทั้งเงาะ มังคุด ทุเรียน ซึ่งมีคนนิยมรับประทานและน่าจะมีฐานลูกค้า เพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้เสริมเข้าครอบครัวได้มากขึ้น
จึงพากันตัดสินซื้อซื้อต้นกล้าผลไม้มาปลูก ครั้งแรกซื้อมาปลูกประมาณ 100 ต้น บนที่ดินประมาณ 40 ไร่ ผสมผสานกับมันสำปะหลัง ด้วยความไม่มีประสบการณ์จึงสามารถปลูกต้นทุเรียนและเจริญเติบโตเพียง 50 ต้น หลังจากนั้นจึงได้ปรึกษาและหาความรู้ โดยการสอบถามผู้รู้ที่เขาปลูกก่อนและประสบความสำเร็จ จนพบเทคนิคการปลูกการดูแลใส่ปุ๋ย ใส่ยาบำรุงรักษา จนทุเรียน และเงาะที่ปลูกไว้แถบเทือกเขาภูแลนคามาประมาณ 3 ปี 8 เดือน ได้ออกผลและให้ลูกใหญ่สมบูรณ์อย่างน่าตื่นเต้นในปีนี้ มาต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีแรก ที่มีการตอบรับจากการมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม ชิม ช็อป หรือเลือกซื้อไปรับประทานกันสดๆ ในสวน รวมทั้งพากันเดินเที่ยวชม”แชะ”ถ่ายภาพ จนกระจายไปปากต่อปากมาจนปัจจุบัน ที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาหาเลือกซื้อทุเรียน และเงาะ ที่สวนเป็นจำนวนมากอย่างคึกคักในช่วงต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบานที่ จ.ชัยภูมิจัดขึ้นปีนี้ และ สามารถสร้างรายได้ในปีแรกปีนี้สูงเป็นรุ่นแรก นับกว่าหลายแสนบาทแล้ว
ซึ่งนายวิษณุ ฉนังกลาง เล่าถึงชี้แนะเทคนิคการดูแลต้นทุเรียนที่ปลูกว่า ไม่ยากสำหรับคนที่สนใจปลูก พันธุ์ที่ได้ผลดีและเจริญเติบโตดีในเขต อ.แก้งคร้อ ก็คือสายพันธุ์ที่นำมาจากภาคตะวันออกเป็นส่วนใหญ่ เหมาะสมภูมิประเทศของ จ.ชัยภูมิ ส่วนพันธุ์ทางใต้จะไม่ค่อยเหมาะสมกับอากาศและดินแถวนี้มากนัก การปลูกจะขุดลงดินประมาณ 40-50 เซนติเมตร มีการวางท่อระบบการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา แต่ต้องไม่แฉะ พอดินเปียกๆ ส่วนการใส่ปุ๋ยก็จะใส่สำเร็จรูปอินทรีย์พอประมาณ และที่สำคัญต้องใส่ใจดูแลเรื่องโรคเชื้อรา ที่ใบหรือลำต้น ก็จะใช้ยาน้ำสารจุลินทรีย์ฉีดพ่นเพื่อยับยั้งการลุกลามของเชื้อรา ก็จะทำให้ผลผลิตมีคุณภาพออกมาดีแล้ว ซึ่งรสชาติต้องบอกว่ามาลองชิมกันดูเป็นลักษณ์ทุเรียนไม่เหมือนใครอีกแห่ง ที่นักท่องเที่ยวสายทุเรียนส่วนใหญ่ทราบข่าวก็ไม่มีใครพลาด จะต้องพาคณะครอบครัวมาหาเลือกชิมกันคาสวนไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่รู้จะไปที่ไหนลองมาชม ชิม ช็อป แชะกันดู
ซึ่งเจ้าของสวนที่จ.ชัยภูมิ รายนี้กล่าวย้ำด้วยความภาคภูมิใจว่า สวนเราเป็นสวนชาวบ้านแบบครอบครัว 4 คน พ่อ-แม่-พี่ และน้องสาว ทำด้วยใจรักปรึกษากัน ดูแลกันทั้งคนและต้นไม้ สนุกและมีความสุขมาก ลูกๆได้อยู่ที่บ้านของตน แต่ด้วยความรักการเรียนรู้จึงทำให้ลูกชาย ลูกสาว สามารถปลูกต้นเงาะ ทุเรียนเป็นผลสำเร็จ ปีนี้รายได้เริ่มมีเกิดความมั่นคง เราก็มีความหวังและยินดีที่จะขยายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชาวบ้านต่อไปในครั้งนี้ด้วย
ส่วน นายสมฤกษ์ กาบกลาง นักท่องเที่ยวจาก จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตนเองและครอบครัวได้มีโอกาสมาเที่ยวชมทุ่งดกอกระเจียวที่จังหวัดชัยภูมิ โดยมีคำแนะนำจากเพื่อนชาวชัยภูมิ ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนมาจังหวัดชัยภูมิ มีสวนผลไม้อย่างเช่น เงาะ ทุเรียน พอได้มาสัมผัสที่สวนรู้สึกตื่นเต้นมาก ได้มาชม ชิมทั้งเงาะ ทุเรียน อร่อยมากรสชาติดีหอม มัน กลิ่นไม่ฉุน อยากให้เกษตรกรร่วมกันปลูกมากๆ เพื่อเป็นการโปรโมทเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชาวเกษตรกรจะได้มีรายได้เสริมมากขึ้นซึ่งเป็นการช่วยกันส่งเสริมอาชีพที่สุจริตที่ดีด้วยกันอีกทาง และวันนี้ได้มาชม ได้ชิม และะได้ช็อป และก็แชะถ่ายรูปบรรยากาศธรรมชาติในสวนกันสดๆก่อนซื้อกลับบ้านในราคาที่ถูกมากทุเรียนภูแลนคา กิโลละ 170 บาท ส่วนเงาะสดๆจากสวนก็เพียง 40 บาท สุดแสนประทับใจหากมีโอกาสก็จะมาอีกทุกปี
หากใครที่สนใจก็สามารถเข้ามาชมได้ ที่สวน “วิษณุ” ด้วยตนเองได้ทุกวัน หรือโทรสอบถามได้ที่ 097-9768448 “คุณวิษณุ” หรือ 091-3416189 (คุณสาธิพ เบียดนอก ประธานท่องเที่ยว 4 ตำบล) พร้อมกันนี้ยังมีสวนอื่นในเขต ต.ซับสีทอง อ.เมืองชัยภูมิ และมีสถานที่พักผ่อนทั้งรีสอร์ทและโฮมสเตย์ ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากด้วยเช่นกัน
