สำนักงานชลประทานที่ 6 7 และ 8 ประชุมร่วมบริหารจัดการน้ำ หลังพบว่า ปีนี้ฝนตกน้อย จ่ายน้ำเท่าที่จำเป็นและเก็บกักน้ำเป็นหลัก เลื่อนเวลาดำนาให้นานขึ้น
นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูลในช่วงฤดูฝน โดยมีสำนักงานชลประทานที่ 7 และ 8 เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมลำน้ำชี สำนักงานชลประทานที่ 6 ขอนแก่น
ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 กล่าวภายหลังการประชุมว่า ตามที่อธิบดีกรมชลประทานได้ย้ำให้สำนักงานชลประทานทุกแห่ง จัดสรรการใช้น้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ฤดูฝนปี 2562 นี้ปริมาณฝนมีเกณฑ์ตกน้อยกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 3% และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 5-10% และช่วงปลายเดือนกรกฎาคมอาจจะเกิดฝนทิ้งช่วง
จากการติดตามสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝนตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 เป็นต้นมา พบว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลาง อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ซึ่งปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำ 583.19 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 23.99 ของความจุอ่าง มีน้ำใช้การได้ 1.52 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 0.08 ของความจุอ่าง เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำ 568.90 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 28.73 ของความจุอ่าง น้ำใช้การได้ 468.90 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 23.68 ของความจุอ่าง เขื่อนจุฬาภรณ์มีปริมาณน้ำ 49.88 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30.46 ของความจุอ่าง น้ำใช้การได้ 12.66 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 10 ของความจุอ่าง
ที่ประชุมในวันนี้ได้วางแนวทางการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนตามมาตรการของกรมชลประทาน โดยการติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำเพียงพอสำหรับการใช้ตลอดฤดูฝน และเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้งที่จะมาถึง พร้อมพิจารณาให้ความสำคัญกับการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก ดำเนินการเก็บกักน้ำในเขื่อนให้มากที่สุด ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์เก็บกักน้ำต่ำสุดตามช่วงเวลา เพื่อความมั่นคงด้านการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ จะใช้น้ำชลประทานเพื่อการเกษตรกรณีที่มีฝนทิ้งช่วงและมีปริมาณน้ำเพียงพอสนับสนุนการเกษตรเท่านั้น
นอกจากนี้ยังให้โครงการชลประทานจังหวัดทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้ทราบสถานการณ์น้ำ และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แนะนำให้เกษตรกรทยอยเพาะปลูกตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ หากพื้นที่ใดที่ยังไม่เริ่มการเพาะปลูกข้าว ขอให้เลื่อนเวลาการเพาะปลูกออกไปในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 62 เพื่อรักษาปริมาณน้ำไว้ให้เพียงพอต่อการใช้น้ำของทุกภาคส่วน จนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
รวมทั้งยังได้มีแผนในการเตรียมความพร้อมวางมาตรการให้ความช่วยเหลือ โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด บูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน รวมถึงเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุกน้ำ พร้อมให้การสนับสนุนโดยทันทีด้วย จึงขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้มีปริมาณสำรองไว้ใช้ให้มากที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
