ชัยภูมิ – เกษตรกรชาวนาชัยภูมิ หลายอำเภอเริ่มเดือดร้อนหนักหลังเกิดภาวะฝนเริ่มทิ้งช่วงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนหนักสุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งน้ำตามลำคลองในชุมชนที่มีและน้ำในลำน้ำชีเกิดแห้งขอดจ่อวิกฤตหนัก แปลงนาข้าวขาดน้ำยืนต้นตายหลายพื้นที่นับหมื่นไร่เริ่มได้รับความเสียหายขยายวงกว้างต่อเนื่อง ในหลายอำเภอแล้ว วอนภาครัฐเร่งหาแนวทางช่วยเหลือเป็นไปได้อยากให้ช่วยเร่งทำฝนเทียมช่วยด่วนก่อนข้าวที่เหลือในนาแห้งทั้งหมดจะยืนต้นตตายในอีกไม่เกินสิ้นเดือน ก.ค.ปีนี้!!
( 11 ก.ค.62 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ สถานการณ์ภัยแล้งเนื่องจากฝนเริ่มทิ้งช่วงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ เริ่มสร้างความเดือดร้อนทนทุกข์หนักให้กับชาวนาในพื้นที่เขตอำเภอเมืองชัยภูมิ และรอยต่ออีกหลายอำเภอ หลังจากที่ได้มีการหว่านกล้าตั้งแต่ต้นพฤษภาคมที่ผ่านมาประมาณ 30 % ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด
มาจนปัจจุบันกลับเริ่มประสบกับภาวะฝนทิ้งช่วงมานานนับเดือน แม้จะมีพายุฝนเกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่บ้าง แต่ฝนก็ยังตกไม่ทั่วฟ้า ของจังหวัดชัยภูมิบางพื้นที่แทบไม่มีฝนตกลงมาเลยตลอดช่วงที่ผ่านมานานนับเดือน ทำให้ในหลายพื้นที่ที่มีการปลูกข้าว
โดยเฉพาะในพื้นที่นาดอนเขตไม่มีแหล่งน้ำไหลผ่าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ตำบลบ้านเล่า ตำบลโพนทอง อำเภอเมืองชัยภูมิ และอีกหลายอำเภอทั้งอำเภอจัตุรัส ,เนินสง่า ,ซับใหญ่ ต้องประสบกับภัยแล้งหนักกว่าทุกปีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนด้วยเช่นกัน
ที่ปัจจุบันสภาพน้ำตามลำคลองแห้งขอด พื้นที่นาขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวเป็นบริเวณกว้างแล้วหลายพันไร่ ในส่วนเฉพาะพื้นทีอำเภอเมืองชัยภูมิ มีพื้นที่นาข้าวต้นข้าวยืนต้นแห้งเหี่ยวรอความตายแล้วจำนวนมากไม่น้อยกว่า 5 พันไร่
ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ นางสุพัตรา คุ้มไข่น้ำ วัย 59 ปี เกษตรกรชาวนาบ้านโพนทอง ตำบลโพนทอง อ.เมืองชัยภูมิ บอกว่า สถานการณ์ภัยแล้งฝนทิ้งช่วงในปีนี้ถือว่าหนักสุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากเป็นเช่นนี้ไม่เกินสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ไม่มีฝนตกลงมา ต้นข้าวที่หว่านรอบแรกไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโตมีความสูงประมาณ 10 เซนติเมตร จะถูกแดดเผาแห้งเหี่ยวตายทั้งหมด และสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ปลูกข้าวเป็นบริเวณกว้างในเขตตำบลนี้ทั้งหมดนับหมื่นไร่
เพราะส่วนตามคูคลองต่างๆที่เคยมีน้ำก็ถูกสูบเข้าช่วยนาข้าวกันหมดจนไม่มีน้ำขังแห้งขอดหมดแล้ว ทำให้ชาวนาบางรายในพื้นที่นาข้าวแล้ง เริ่มมีความวิตกกังวล และเกิดความเครียดกลัวว่าจะไม่สามารถนำเงินไปใช้หนี้ก้อนโตที่กู้มาจาก ธกส.และหนี้นอกระบบอื่นๆอีกในปีนี้ได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วน ไม่ว่าจะการทำฝนหลวงหรือฝนเทียม หรือหาเครื่องสูบน้ำระยะไกล ช่วยหาแหล่งน้ำสูบน้ำจากลำห้วย คลองส่งน้ำอื่นๆที่มีมาช่วยได้ในช่วงจากนี้ไปไม่เกินสิ้นเดือนก.ค.ปีนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: