ผู้ปกครองนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกายเผยไม่เอาเรื่องคู่กรณี ยอมรับเหตุเพราะหลานสาวไปยืมเงินเพื่อน ขณะที่โรงเรียนเตรียมลงโทษนักเรียนที่ก่อเหตุวิวาท
ดร.วีระเดช ซาตา ผู้อำนวยการ โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย ประชุมร่วมผู้ปกครองนักเรียนคู่กรณีทั้งสองฝ่าย หลังปรากฎคลิปนักเรียนทำร้ายร่างกายกันภายในโรงเรียน หลังการหารือเป็นเวลากว่า 2 ชม. ผู้อำนวยการโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย กล่าวว่า ทางโรงเรียนรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับว่า นักเรียนที่อยู่ในคลิปวีดีโอที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่อยู่ในความดูแลของทางโรงเรียนจริง
จากการสอบสวน ทราบว่า การทะเลาะวิวาทครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่กลุ่มของนักเรียนหญิงที่เป็นฝ่ายลงมือทำร้าย รวม 5 คน ได้ตามไปทวงหนี้เพื่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ยืมไป จำนวน 4,200 บาท ซึ่งก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ผู้ปกครองของนักเรียนฝ่ายที่ถูกทำร้ายได้โอนเงินไปให้นักเรียนที่เป็นคนลงมือแล้ว จำนวน 2,000 บาท โดยที่ผู้ปกครองเองก็ไม่ทราบว่าเป็นค่าอะไร แต่ก็ยังเหลือเงินที่ค้างอยู่อีกจำนวน 2,200 บาท โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงพักเที่ยงของวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่นักเรียนส่วนใหญ่จะลงไปอยู่ด้านล่าง จึงทำให้คณะครูอาจารย์ไม่ทราบว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น กระทั่งมีคลิปวีดีโอเผยแพร่ออกมา
จากการประชุมได้ข้อสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันได้ด้วยดี โดยผู้ปกครองของนักเรียนหญิงที่เป็นฝ่ายทำร้ายได้กล่าวขอโทษและแสดงความเสียใจกับการกระทำของลูกตนเอง ซึ่งได้ว่ากล่าวตักเตือนอย่างหนักไม่ให้ก่อเหตุเช่นนี้อีก ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกรุมทำร้ายแม้จะเสียใจที่บุตรหลานของตนเองถูกกระทำ แต่ก็ไม่ติดใจเอาความหรือแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนจะดำเนินการเอาผิดในทางวินัยกับกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุ โดยจะทำการคาดโทษเอาไว้เพื่อไม่ให้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทอีก หากในอนาคตพบว่า มีพฤติกรรมเช่นนี้อีกก็จะถูกลงโทษตามระเบียบทางโรงเรียนอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ทางโรงเรียนจะเพิ่มมาตรการป้องกันไม่ให้นักเรียนก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก
ด้านผู้ปกครองของนักเรียนหญิงฝ่ายที่ถูกทำร้าย ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ–นามสกุล และใบหน้า กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ไม่เอาความหรือดำเนินคดีกับกลุ่มนักเรียนที่รุมทำร้ายหลานสาวของตนเอง เพราะอยากให้นักเรียนทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันด้วยดีมากกว่า เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็เคยเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันมาก่อน ยอมรับว่า เสียใจที่หลานสาวถูกทำร้ายอย่างรุนแรง แต่ก็เชื่อว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อแม่ของทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนประเด็นที่หลานสาวของตนไปยืมเงินเพื่อน จำนวน 4,200 บาท ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุตนก็ไม่ทราบว่า หลานสาวได้ไปยืมเงินเพื่อน กระทั่งฝ่ายที่ถูกยืมได้โทรศัพท์มาทวงเงิน เมื่อสอบถามหลานแต่ก็ไม่ได้บอกว่าไปยืมเงินเพื่อนมา ก่อนจะทราบภายหลังว่า หลานเป็นหนี้เพื่อนจริง เป็นเงิน จำนวน 4,200 บาท ตนเองจึงได้ใช้หนี้ให้ โดยโอนเงินให้ไปก่อน จำนวน 2,000 บาท ในช่วงเช้าของวันที่ 10 ก.ค.62 เพราะยังไม่ทราบรายละเอียดว่า หลานยืมมาเป็นค่าอะไร และโอนส่วนที่เหลือให้ในอีก 2 วันถัดมา แต่ก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก่อน
ซึ่งวันที่หลานถูกทำร้าย ตนเองและแม่ของเด็กก็ไม่ทราบเรื่อง เพราะหลานก็ไม่ได้เล่าให้ฟังเพราะอาจจะกลัวถูกทำร้ายอีก กระทั่งแม่ของหลานเริ่มสังเกตว่า ลูกมีอาการแปลกๆ เช่น ลุกนั่งลำบาก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย จึงพาไปพบแพทย์ ซึ่งก็มาทราบภายหลังว่า หลานสาวถูกเพื่อนรุมทำร้ายหลังจากที่คลิปวีดีโอนี้เผยแพร่ออกมาในโลกออนไลน์ หลังจากนี้ทางครอบครัวจะพาไปให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งเพราะหลานสาวอาการยังไม่ดีขึ้น
