X
ต้านคนนอกพื้นที่เคลื่อนไหว

สงครามป้ายผ้า กลุ่มหนุนต้านผุดเต็มพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

สงครามป้ายผ้า ในพื้นที่การพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หลังมีกลุ่มหนุนต้านต่างนำมาติดพรึบไว้เต็มพื้นที่ ประชันกันเรียงรายตามท้องถนน ขณะชาวเขาดินบอกต้องการความเจริญก้าวหน้าเข้ามาสู่ชุมชน พร้อมหนุนให้ภาครัฐและเอกชนเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อเนื่องให้แล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว ตั้งความหวังอยากให้บุตรหลานมีงานทำใกล้บ้าน

วันที่ 16 ก.ค.62 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบ กรณีมีชาวบ้านพบเห็นกลุ่มบุคคลต่างฝ่ายกันได้นำแผ่นป้ายผ้าไวนิล เขียนข้อความทั้งสนับสนุนและต่อต้านโครงการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มาขึงติดไว้เรียงรายตามทาง และขอบราวสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

ฝ่ายต้าน

ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายในโครงการพัฒนาพิเศษสามจังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง) และมีการเตรียมการก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และกำลังจะมีการปรับเปลี่ยน จากการประกาศใช้ผังเมืองฉบับใหม่ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินในการประกอบกิจการภาคอุตสาหกรรมตามแผนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 จากพื้นที่สีเขียวให้เป็นสีม่วง ตามผังเมืองใหม่ของอีอีซีได้

หลังจากการตรวจสอบในพื้นที่ ปรากฏว่าแผ่นป้ายผ้าของกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน และต่อต้านโครงการ ที่ได้มีการนำมาติดไว้ขณะออกมาเดินขบวนเคลื่อนไหวต่อต้าน ข้อความ “หยุดผังเมือง EEC ที่ขาดการมีส่วนร่วม” ได้ถูกปลดหายไปจากพื้นที่หมดแล้ว โดยเหลือเพียงแผ่นป้ายผ้าไวนิลของฝ่ายผู้ให้การสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่จำนวนมาก ที่ถูกนำมาติดตั้งเรียงรายอยู่เต็มรายทางริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ สาย 7 (กรุงเทพฯ-พัทยา) ใกล้กับจุดพักรถเขาดินทั้งด้านฝั่งขาเข้าและขาออกแทน

กลุ่มต่อต้าน

โดยมีข้อความต่างๆ เช่น “พวกเราคนเขาดิน มีโอกาสที่จะรับความเจริญ คนที่อื่นไม่เกี่ยวอย่ามาหาผลประโยชน์กับพื้นที่ที่ต้องการความเจริญ” และป้ายข้อความ “อย่าฟังแต่พวกที่สร้างกระแส แต่ไม่เคยพัฒนาประเทศ ออกไป ! พวกถ่วงความเจริญของประเทศ” และ “เด็กรุ่นใหม่ต้องการความเจริญ” ต่อเนื่องด้วยป้ายข้อความ “เราอยากทำงานใกล้บ้าน”

ผุดเต็มพื้นที่

จากการสอบถามนางอำไพ พ่วงรักษา อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.1 ต.เขาดิน กล่าวว่า พวกเราชาวตำบลเขาดิน ต้องการสนับสนุนให้มีโครงการพัฒนาในพื้นที่เกิดขึ้น ลูกหลานจะได้มีงานทำอยู่ใกล้ๆ บ้าน เพราะเชื่อว่าก่อนที่ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมจะรับคนจากที่อื่นเข้ามาทำงาน ก็ต้องพิจารณารับคนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ เข้าทำงานก่อน นางอำไพ กล่าว

นางอำไพ พ่วงรักษา

ขณะที่นางพินิจ แก้วพิทักษ์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.2 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกลุ่มที่เข้ามาเคลื่อนไหว และขึ้นป้ายคัดค้านผังเมืองและการพัฒนาพื้นที่พิเศษว่า พวกเขาไม่น่าจะเข้ามาขัดขวางความเจริญของพื้นที่ น่าจะให้มีการพัฒนาพื้นที่เป็นไปได้อย่างราบรื่นโดยสะดวก โดยผู้ที่ยังออกมาเคลื่อนไหวขัดขวางอยู่นั้น เป็นผู้ที่เคยเช่าที่ดินเขาทำนาอยู่และอยากจะทำต่อไป

อยากได้ความเจริญ

และบางส่วนที่เข้ามาร่วมเคลื่อนไหวนั้น เป็นคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนไม่รู้ว่าเขามาจากไหนกัน โดยเฉพาะแกนนำที่เข้ามาปลุกปั่นนั้น ไม่ใช่คนในในพื้นที่แน่นอน แต่ส่วนใหญ่คนเขาดินจริงๆ นั้น ต่างเห็นว่าการมีโครงการเข้ามาพัฒนาพื้นที่ให้เจริญนั้นดีแล้ว จึงต่างพากันให้การสนับสนุน เนื่องจากเดิมเขาดินนั้นเป็นพื้นที่ปิด ที่ขาดการพัฒนามาอย่างยาวนาน การสัญจรไม่สะดวกไม่มีผู้คนเข้าออกผ่านพื้นที่เพราะมีถนนหนทางคับแคบไม่มีความเจริญเนื่องจากพัฒนาไม่ได้

นางพินิจ แก้วพิทักษ์

สาเหตุจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินหลวม พื้นดินไม่แน่นสร้างถนนยังไม่ทันแล้วเสร็จดีก็พังอีก แต่พอมีโครงการขนาดใหญ่เข้ามา เขากลับพัฒนาพื้นที่ให้เจริญขึ้นได้ ทำให้การสัญจรสะดวกขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่นั้น ยังได้มีการจัดสรรที่ดินให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการได้สร้างที่อยู่อาศัย ทำให้พวกเรามีบ้านเรือนและที่ดินอยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยที่ไม่ต้องเช่าเอาอยู่อีกต่อไป

ถนนเลียบมอเตอร์เวย์

จากเดิมที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า พื้นที่ใน ต.เขาดิน จะถูกพัฒนาให้เจริญขึ้นมาได้ และชาวเขาดินคงต้องอยู่กันอย่างเงียบๆ อย่างนี้ตลอดไป เพราะพัฒนาไม่ได้ แต่เมื่อมีโครงการเข้ามาแบบนี้ เข้ามาทำได้ดี ถึงขนาดนี้ จึงต้องการที่จะสนับสนุนให้มีนิคมอุตสาหกรรมเข้ามาอยู่ใกล้บ้าน ลูกหลานจะได้เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนได้ มาคอยดูแลได้

ป้ายหนุนพรึบเต็มพื้นที่

จากเดิมที่เจ้าของที่ดินเดิม ที่ตนเคยเช่าอยู่อาศัยซึ่งเป็นญาติกัน ได้ขายที่ดินให้แก่ทางโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมไป ตนจึงจำเป็นต้องย้ายบ้านออกจากพื้นที่ไปเช่าที่อยู่ใหม่มานานถึงกว่า 10 เดือน ซึ่งตอนนั้นได้รับความเดือดร้อนมาก แต่หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากทางโครงการ ที่ช่วยจัดสรรที่ดินแปลงใหม่ให้ปลูกบ้านเรือนอยู่อาศัย และมีโอกาสที่จะได้รับกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดินเป็นของตนเองก็คิดว่าจะอยู่ที่นี่ไปจนวันตาย

อยากทำงานใกล้บ้าน

เพราะสถานที่ใหม่ ที่ถูกจัดสรรให้อยู่อาศัยเป็นพื้นที่ใกล้ความเจริญ อยู่ไม่ไกลจากวัดเขาดิน สภาพแวดล้อมน่าอยู่อาศัยมาก จนทำให้ทุกวันนี้มีผู้คนที่ผ่านไปมา และกำลังมองหาซื้อบ้านอยู่อาศัย ต่างพากัน เข้าถามหาซื้อแทบทุกวัน ซึ่งตนต้องคอยตอบคำถามแบบเดิมๆ อยู่ตลอดว่า เป็นที่ดินที่ถูกจัดสรรให้เฉพาะชาว ต.เขาดิน ได้สิทธิ์อยู่อาศัยเท่านั้น นางพินิจ กล่าว

นายสมบูรณ์ ไมตรีจิตต์

ด้าน นายสมบูรณ์ ไมตรีจิตต์ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ม.1 ต.เขาดิน กล่าวว่า กลุ่มที่เข้ามาเคลื่อนไหวคัดค้านในพื้นที่นั้น ไม่สมควรเข้ามายุ่งวุ่นวายแทนคนเขาดิน เพราะเจ้าของที่ดินเดิมเขาขายที่ดินไปแล้ว คนที่เคยเช่าอยู่ก็ต้องออกไปจากพื้นที่ เพราะไม่ใช่ที่ดินของตนเองจึงเป็นสิทธิของเจ้าของที่ดิน และกลุ่มคนที่มาเดินขบวนต่อต้านนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาขัดขวาง เพราะเป็นเพียงแค่ผู้เช่า ทั้งยังเคยรับเงินชดเชยเป็นค่ารื้อถอนไปแล้ว

ไม่ใช่คนพื้นที่

โดยคนที่เข้ามาเดินขบวนติดป้ายต่อต้านนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนจากนอกพื้นที่ ที่เข้ามายุแหย่ปลุกปั่น แต่คนในตำบลเขาดินจริงๆ ส่วนใหญ่นั้นอยากได้ความเจริญมากกว่านี้ เพราะเดิมมีแต่ป่าจาก มีแต่ท้องนา ที่ผ่านมาทำนามากว่า 50-60 ปี ชาวบ้านก็ยังคงเป็นหนี้อยู่เหมือนเดิม จึงอยากให้เด็กๆ รุ่นใหม่ใน ต.เขาดิน นั้น มีโอกาสได้ทำงานดีๆ อยู่ใกล้ๆ บ้านมากกว่า ตนจึงเห็นด้วยที่จะให้มีการพัฒนาพื้นที่ต่อไป นายสมบูรณ์ กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน