พบราคาพันธุ์เปลือกตามท้องตลาดจำหน่ายเพียง 400-450 บาท ระบุราคาซื้อพันธุ์ข้าวของตำบลบัวบานกระสอบละ 700 บาทแพงเกินจริง ขณะที่ชาวบ้านใน ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์โวยพันธุ์ปลาดุกและหัวอาหาร โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด ไม่สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรช่วยเหลือจากรัฐบาล ระบุเงิน 5,000 บาท ได้แต่ปลาดุกเล็ก 700 ตัวและหัวอาหาร 4 กระสอบเท่านั้น พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
จากกรณีชาวบ้านพบความผิดปกติการดำเนินโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด ของกลุ่มชุมชนบัวบาน 1 และกลุ่มชุมชนบัวบาน 2 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เนื่องเอกสารการเสนอโครงการ เพื่อที่จะจัดซื้อปัจจัยการผลิตราคาสูงกว่าความเป็นจริงและแพงกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวเปลือกนาปรังมีการกำหนดราคาซื้อไว้ในราคาสูงถึงกระสอบละ 700 บาท พันธุ์ปลาดุกราคาสูงถึงตัวละ 3 บาท และหัวอาหารปลาดุกราคากระสอบละ 550-600 บาท นอกจากนี้ยังมีการเสนอราคาในการซื้อปุ๋ยชีวภาพไว้สูงกระสอบละ 550 บาท พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สตง.กาฬสินธุ์ ปปท.และกอ.รมน.กาฬสินธุ์ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวได้สำรวจราคาการจำหน่ายพันธุ์ข้าวเปลือกที่ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่า ราคาพันธุ์ข้าวเปลือกเหนียว จำหน่ายเพียงกระสอบละ 480 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้สอบถามไปยังร้านจำหน่ายพันธุ์พืชและพันธุ์ข้าวเปลือกต่างๆในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งพบว่าราคาการจำหน่ายพันธุ์ข้าวเปลือกเหนียวชนิดต่างๆจำหน่ายอยู่ที่ราคาประมาณกระสอบละ 400-450 บาท ส่วนพันธุ์ข้าวเปลือกเจ้าจำหน่ายอยู่เพียงกระสอบละ 450 บาท
นายวสันต์ วงค์ชัยนันท์ เจ้าของร้านโนนศิลาการเกษตร กล่าวว่า ราคาจำหน่ายพันธุ์ข้าวเปลือกเจ้าชัยนาท 1 ที่ร้านตนจำหน่ายเพียงกระสอบละ 400-450 บาทเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับระยะทางขนส่งและจำนวนข้าวด้วย ซึ่งหากซื้อจากบริษัทในราคาขายส่งก็จะอยู่ที่ราคากระสอบละ 380 บาท ส่วนพันธุ์ข้าวเปลือกเหนียวก็จำหน่ายเฉลี่ยราคาอยู่ที่ 400-450 บาทเช่นกัน ทั้งนี้สำหรับกรณีมีการซื้อพันธุ์ข้าวเปลือกในราคากระสอบละ 700 บาทนั้น ถือว่าแพงมาก เพราะเท่าที่ตนเปิดร้านจำหน่ายพันธุ์ข้าวไม่เคยพบว่ามีพันธุ์ข้าวเปลือกใดแพงเท่านี้มาก่อนในประเทศไทย
อย่างไรก็ตามปัญหาโครงการดังกล่าวยังคงพบอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบความผิดปกติโครงการเลี้ยงปลาดุกในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.นาขาม ซึ่งชาวบ้านระบุว่าพันธุ์ปลาดุกที่เจ้าหน้าที่เกษตรและผู้รับเหมานำมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านนั้นไม่เหมาะสมกับงบประมาณที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท เนื่องจากขนาดของปลาตัวเล็กเพียง 3-4 เซนติเมตร ได้จำนวนน้อย และหัวอาหารก็ได้เพียง 4 กระสอบ อีกทั้งยังไม่ให้บ่อซีเมนต์หรือกระชังมาเลี้ยงปลา
นางวิฑูรย์ แสนนาโก ชาวบ้านโนนฟองแก้ว ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่นาข้าวของตนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจำนวน 5 ไร่ ซึ่งเมื่อที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนและชาวบ้านโนนฟองแก้วได้รับพันธุ์ปลาดุก ซึ่งคณะกรรมการชุมชน เกษตรอำเภอ และผู้รับเหมานำมาให้ตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตร โดยตนได้รับพันธุ์ปลาดุก ขนาดลำตัวยาว 3 – 4 เซนติเมตร ประมาณ 700 ตัว ซึ่งเป็นปลาตัวเล็กมาก ยังไม่สามารถกินอาหารได้ และได้รับหัวอาหารอีก 4 กระสอบ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้งบประมาณในการจัดซื้อประมาณ 5,000 บาท แต่ไม่ได้รับท่อปูนซีเมนต์และกระชัง เพื่อที่จะนำมาปล่อยปลาเลี้ยง สอบถามไปก็บอกว่าไม่มีให้ มีแค่พันธุ์ปลากับหัวอาหารเท่านั้น จะเอาไม่เอาก็แล้วแต่ ทำให้ตนต้องนำปลาดุกครึ่งหนึ่งไปปล่อยในสระน้ำ แต่ก็กลัวว่าปลาตัวใหญ่จะกินหมด จึงนำปลาดุกอีกครึ่งหนึ่งมาเลี้ยงไว้ในโอ่งน้ำข้างบ้าน
นางวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า ตนและชาวบ้านหลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า ราคาพันธุ์ปลาที่นำมาแจกให้กับชาวบ้านนั้นราคาไม่น่าจะเกิน 500 บาท เพราะปลาตัวเล็กมาก เท่ากับใบมะขาม ส่วนหัวอาหารรวมแล้วราคาประมาณ 2 พันบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ 5,000 บาท จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สตง.กาฬสินธุ์ และปปท.ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณในครั้งนี้ เพื่อให้ชาวบ้านได้ประโยชน์และไม่ได้ถูกเอาเปรียบจากนายทุน
