อุบลราชธานี – สำนักวิจัยและพัฒนาเกษตรเขต 4 ร่วม บก.ปคบ.ลงพื้นที่ตรวจยึด ปุ๋ยอินทรีย์ปลอม 2 อำเภอจังหวัดอุบลราชธานี กว่า 110 ตัน หลังพบระบาดในพื้นที่ อุบลราชธานี
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 มี.ค.61 รายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายสุพจน์ สัตยากุล ผู้อำนวยการกลุ่มควบคุมตามพระราชบัญญัติสำนักวิจัยและพัฒนาเกษตรเขต 4 ร่วมกับ ร.ต.อ.จำรูญ คำมา รองสารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ)กองบัญชาการสอบสวนกลาง
นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านเลขที่ 21 ม.10 ต. หนองเหล่า อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มบุคคลมาเสนอขายปุ๋ยอินทรีย์ปลอมให้แก่ประชาชนทั่วไปในเขตจังหวัดอุบลราชธานี โดยการนำไปวางไว้เป็นจุดในเขตอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี มีร้านจำหน่ายรายใหญ่ในอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
นายสุพจน์ เปิดเผยว่าสำหรับปฏิบัติการดำเนินการเข้าตรวจยึดวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีกลุ่มบุคคลมาเสนอขายปุ๋ยอินทรีย์ปลอมให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยจะนำมาวางตามจุดต่างๆเพื่อเตรียมจำหน่ายในบ้านดอนแดงน้อย ต.หนองเหล่า บ้านไผ่ใหญ่ ต.ไผ่ใหญ่ บ้านหนองหลัก ต.เหล่าบก อ.ม่วงสามสิบ โดยมีร้านขายส่งอยู่ในตัวอำเภอเดชอุดม
เดินทางเข้าตรวจสอบจุดแรก บ้านเลขที่ 21 ม.10 บ้านดอนเหล่าแดง ต.หนองเหล่า อ.ม่วงสามสิบ เป็นศูนย์สาธารณสุขชุมชนมูลฐาน มีนายวิวัฒน์ สมหา อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน บริเวณหน้าบ้านพบกระสอบปุ๋ยอินทรีย์ชนิดเม็ด ระบุเครื่องหมายการค้าชื่อกำไรเงินกำไรทอง ทะเบียนเลขที่ 63/2560(กรมวิชาการเกษตร) จำนวน 216 กระสอบ มีนางแขไข สุทธิประภา อายุ 37 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลปุ๋ยดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวแสดงความประสงค์ตรวจสอบปุ๋ยอินทรีย์และเอกสารที่เกี่ยวข้องพบว่าเลขทะเบียนดังกล่าวเป็นเลขทะเบียนที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่จากการตรวจสอบคุณภาพหลังจากประชาชนร้องเรียนพบว่าปุ๋ยดังกล่าวเป็นปุ๋ยอินทรีปลอมคุณภาพไม่ได้ตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ จึงได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ)ทำการอายัดตรวจยึดปุ๋ยทั้งหมดเพื่อดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด
นอกจากบ้านดอนแดงน้อย เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจสอบ บ้านไผ่ใหญ่ ต.ไผ่ใหญ่ บ้านหนองหลัก ต.เหล่าบก อ.ม่วงสามสิบ ร้าน เจ เค การเกษตร เลขที่ 12 ม.17 ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ซึ่งตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ ทั้งนี้รวมการตรวจยึดปุ๋ยยี่ห้อดังกล่าวก่อนหน้านี้ รวมแล้ว 110 ตัน ประมาณ 2,211 กระสอบ มูลค่าร่วม 1 ล้าน
ร.ต.อ.จำรูญ กล่าวถึงการดำเนินการทางคดีว่าเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่มาขายปุ๋ยที่ไม่ได้คุณภาพตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นโดยผู้วิเคราะห์จากสำนักวิจัยและพัฒนาเกษตรเขต 4 ก่อนหน้านี้พบว่ามีคุณภาพไม่ตรงตามที่จะทะเบียนไว้ ซึ่งเป็นความผิดฐานขายปุ๋ยโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายปุ๋ยปลอม แต่ทางเจ้าของสินค้าได้กล่าวอ้างว่าได้ซื้อปุ๋ยมาจากจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อมาจำหน่ายที่จังหวัดอุบลราชธานี แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ด้านนายชัยพล เอมเขียนสุพร อายุ 50 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายปุ๋ย เจ เค การเกษตร กล่าวว่าปุ๋ยของตนได้จำหน่ายมานานมีการขอจดทะเบียนถูกต้อง การจะกล่าวว่าปุ๋ยปลอมหรือไม่ก็ต้องไปวิเคราะห์ก่อนต้องให้ตนแก้ต่างด้วยแต่วันนี้เป็นแค่เบื้องต้นเพิ่งถูกกล่าวหาต้องให้ตนได้นำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ด้วย
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
