สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกับ ทหารพรานตรวจสกัดการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนจากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย สามารถตรวจยึดสินค้าเถื่อนได้หลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท โดยเฉพาะใส่กรอกหมูจากกัมพูชา ที่อาจเป็นพาหะนำโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เข้ามาในประเทศไทยด้วย
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สั่งการให้ นายเรวัตร ศิริตันติ์ หัวหน้าพรมแดน ตำแหน่งนักวิชาการชำนาญการด่านศุลกากร ประสานงานกับ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.เรืองศักดิ์ บัวแดง ผกก.สภ.คลองลึก และ ร.อ.เตชทัต เฉลิมจิตต์ ผบ.ร้อย ทพ.1201 นำกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันตั้งด่านตรวจค้นอยู่ที่บริเวณด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขาเข้าประเทศไทย เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบนำเอาสินค้าผิดกฎหมายและสินค้าหลบหนีภาษีต่าง ๆ จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย
ข่าวน่าสนใจ:
- เอเย่นต์ยาบ้าร้องไห้โฮ หลังชุด ฉก.ปกครองบุกจับ ตรวจพบของกลางกลับโทษภรรยา ไม่ยอมซุกซ่อนยาเสพติดให้ดี จ.สระแก้ว
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- งูหลามตัวใหญ่เข้าบ้าน แจ้งกู้ภัยฯช่วยจับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
- ส่งตัว 3 ผู้ต้องหาฝากขัง คดีหนุ่ม 20 ปี ถูกยิงดับบริเวณคูกันช้าง อ้างปืนลั่น จ.สระแก้ว
นายเรวัตร ศิริตันติ์ หัวหน้าพรมแดน เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ประจำด่านได้ทำการตรวจค้นรถเข็นสองล้อบรรทุกสินค้าต่าง ๆ จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทยทุก ๆ คัน จนสามารถตรวจยึดสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า ประกอบด้วย ชุดกีฬายี่ห้ออดีดาส, ชุดเสื้อผ้าเด็ก ,รองเท้ายี่ห้อคอนเวิดจำนวนหนึ่ง และบุหรี่ยี่ห้อต่างประเทศอีกจำนวน 181 แท่ง รวมมูลค่าประมาณ 3 แสนบาท นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบไส้กรอกหมู ประมาณ 30 กิโลกรัม ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในประเทศไทยโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นพาหะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งกำลังระบาดในประเทศกัมพูชา ถูกนำเข้ามาด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ จากการตรวจยึดสินค้าครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ เนื่องจากสินค้าที่ตรวจยึดได้เป็นสินค้าที่ซุกซ่อนมาตามรถเข็นสองล้อบรรทุกสินค้ามาจากฝั่งกัมพูชาคันละเล็กน้อย โดยมีกรรมกรชาวกัมพูชาเป็นคนรับจ้างเข็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเอาตัวกรรมกรทั้งหมดที่ตรวจพบสินค้ามาทำการสอบสวนอย่างละเอียด ทราบว่า กรรมกรชาวกัมพูชาที่รับจ้างเข็นรถเข็นนั้น ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการซุกซ่อนสินค้าดังกล่าว ประกอบกับกรรมกรกัมพูชามีฐานะยากจนมาก หาเช้ากินค่ำ เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกภาพทำประวัติกรรมกรชาวกัมพูชาทั้งหมดไว้ พร้อมคาดโทษไว้ว่า หากพบอีกจะทำการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายเมืองไทยอย่างเด็ดขาดทันที
——————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: