เกิดเหตุนักเรียนในชุมชนท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กลับบ้านตอนเย็น เจอสายเคเบิ้ลปริศนาร่วงลงมาพาดคอ เคราะห์ดีไม่บาดเจ็บรุนแรง ชาวบ้านวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแล
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 31 ก.ค. 2562 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ทวีชัย สายแสงทอง” ได้โพสต์ภาพเด็กนักเรียนในชุดลูกเสือ ที่ลำคอมีรอยแดงช้ำ พร้อมข้อความระบุว่า “สายสื่อสารห้อยลงมา เด็กซ้อนท้ายแม่กลับบ้าน คอเกือบขาด #หน่วยงานไหนมารับผิดด้วยครับ #พิกัดหน้าโรงบาลท่าฉลอม”
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ไปที่จุดเกิดเหตุบริเวณใกล้กับหน้าโรงพยาบาลนครท่าฉลอม ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยได้พบกับ นายทวีชัย สายแสงทอง ผู้โพสต์ภาพดังกล่าว ก็ได้พาไปดูสายเคเบิ้ลเจ้าปัญหาซึ่งได้ถูกตัดและม้วนวางไว้อยู่ข้างทาง อีกทั้งยังได้พบกับเด็กนักเรียนที่อยู่ในภาพดังกล่าว ทราบชื่อคือนายชนินทร์ หรือเพชร อำภา อายุ 15 ปี กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดแหลมสุวรรณาราม พร้อมด้วย น.ส.วรรณ คุ้มคำ อายุ 60 ปี ป้าของนายชนินทร์ ที่ขับรถจักรยานยนต์ไปรับหลานแล้วมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
นายชนินทร์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเย็นวันดังกล่าว ตนได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของป้าที่ไปรับมาจากโรงเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ามีสายเคเบิ้ลสื่อสารตกลงมาบนตักของตนพอดี ซึ่งตนกำลังจะบอกป้าให้จอดรถขณะที่วิ่งไปข้างหน้าแต่ไม่ทัน เสี้ยววินาทีนั้นสายเคเบิ้ลได้เลื่อนขึ้นมาถึงลำคอ รัดเหนี่ยวตนจนเกือบจะร่วงจากรถจักรยานยนต์ ตนจึงเอียงคอเพื่อเบี่ยงให้สายเคเบิ้ลหลุดพ้นไป ซึ่งก็ได้ขูดที่ลำคอด้านหลังจนเป็นรอยแดงช้ำขนาดใหญ่พอสมควร
พอหลังเกิดเหตุป้าก็ได้หยุดรถจักรยานยนต์ พาตนลงมานั่งดูรอยแผล โชคดีที่ได้นายทวีชัย กับคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาช่วย จากนั้นก็พาไปหาหมอ ซึ่งหมอลงความเห็นว่าไม่เป็นอะไรมากจึงให้ยามาทาที่บ้าน แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ก็สร้างความหวาดผวาให้กับตนและป้าเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน และไม่คาดคิดมาก่อนด้วยว่าจะเจอกับตัวเอง ซึ่งในวินาทีนั้นถ้าหากตนไม่เบี่ยงคอเพื่อให้สายเคเบิ้ลสื่อสารหลุดพ้น ก็อาจจะถูกปาดที่ลำคอ หรือไม่ก็ถูกดึงเหนี่ยวรั้งตกจากรถจักรยานยนต์ก็เป็นไปได้ ทั้งนี้จึงอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ช่วยมาตรวจสอบความเรียบร้อยของสายเคเบิ้ลสื่อสารเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ก็อาจจะเกิดอันตรายกับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนรายอื่น ๆ ได้อีก และไม่ใช่ว่าใครจะโชคดีแบบตนกับป้าเสมอไป
ด้านนายทวีชัย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า สายเคเบิ้ลสื่อสารเส้นดังกล่าว เป็นสายที่พาดขวางถนนสุทธิวาตวิถี โดยถูกตรึงไว้ระหว่างเสาไฟฟ้า 2 ต้นที่อยู่คนละฝั่งของถนน ซึ่งตนเห็นว่าสายสื่อสารเส้นนี้ หย่อนลงมากองกับพื้นถนนตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนมาดำเนินการแก้ไข จนกระทั่งตอนเย็นมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ก็เลยมีความจำเป็นต้องตัดสายเส้นนี้ให้ขาดออกจากกันแล้วก็ม้วนเก็บไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับคนอื่น ๆ ได้อีก
ส่วนชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ บอกว่า ถนนเส้นนี้มักจะมีสายเคเบิ้ลสื่อสารตกลงมากองกับพื้นระเกะระกะอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณปากทางเข้าออกแต่ละซอย ซึ่งก็ต้องรอให้ชาวบ้านแจ้งไปถึงจะมาดูแลเก็บขึ้นไปให้พ้นพื้นถนน ดังนั้นจึงอยากจะวอนให้หน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ที่พาดสายเคเบิ้ลสื่อสารบนเสาไฟฟ้า ลงมาสำรวจความเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วรอให้ชาวบ้านแจ้ง ถึงจะมาดำเนินการ เพราะหากปล่อยปละละเลยก็อาจจะเกิดอันตรายแบบนี้ได้
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) สาขาสมุทรสาคร ได้เข้าไปตรวจสอบสายเคเบิ้ลในที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นของบริษัทเอกชนผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายใหญ่เจ้าหนึ่ง โดยเบื้องต้นทางบริษัทจะเข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ย่อยท่าฉลอม พื้นที่เกิดเหตุ ว่าสายที่เกี่ยวเด็กนักเรียนจนประสบอุบัติเหตุนั้นไม่ใช่ของทีโอที
