เพชรบูรณ์-ตั้งป้ายห้ามรถรางเขาค้อวิ่ง ดื้อแพ่งใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ฯจับกุมยึดรถ นัดประชุม 9 กลุ่มเดินรถรางจัดตั้งเป็นสหกรณ์ สกัดนายทุน-นอมินีแอบแฝง
วันที่ 6 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดระเบียบรถรางทุ่งกังหันลมเขาค้อ หลังจากอำเภอเขาค้อได้มีประกาศให้กลุ่มผู้ประกอบการเดินรถทั้ง 9 กลุ่มหยุดเดินรถ เพื่อรอการจัดตั้งกลุ่มและกำหนดระเบียบกติกาให้เรียบร้อยก่อน แต่ทั้งนี้ก็ยังมีผู้ประกอบการบางกลุ่มดื้อแพ่งแอบวิ่งรถรางรับส่งนักท่องเที่ยวแค่เพียงรายเดียว ล่าสุดนายอำนาจ พูนยอด ปลัดอำเภอเขาค้อ รักษาราชการนายอำเภอเขาค้อ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้คณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้,ทหาร,ตำรวจ, อส.และฝ่ายปกครอง ร่วมกันนำป้ายประกาศศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (พิษณุโลก) กรมป่าไม้ สั่งห้ามเดินรถรางหรือยานพาหนะอื่นๆภายในเขตพื้นที่ทุ่งกันลม โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 4
“ฉะนั้นหากยังมีการฝ่าฝืนทางคณะเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมโดยทันที และยังอาจพิจารณายึดรถรางเป็นของกลางอีกด้วย ทั้งนี้ในการใช้มาตรการดังกล่าวจะเริ่มจากเบาไปหาหนัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางอำเภอได้มีหนังสือแจ้งไปยังกลุ่มผู้ประกอบการเดินรถรางทั้ง 9 กลุ่มแล้วให้หยุดเดินรถราง”นายอำนาจกล่าวและว่า ส่วนการจัดตั้งกลุ่มเดินรถรางใหม่นั้นในวันที่ 13 สิงหาคมนี้จะมีการเชิญผู้ประกอบการทั้ง 9 กลุ่มเข้าร่วมประชุมเพื่อจัดตั้งเป็นสหกรณ์ ขณะเดียวกันยังได้แจ้งให้ทางผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มไปประชุมย่อยเพื่อหารือร่วมกันก่อน ส่วนแผนบริหารจัดการและกฎระเบียบซึ่งทางจังหวัดมอบให้ทางมรภ.เพชรบูรณ์ ช่วยดำเนินการนั้นขณะนี้เสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน
ข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ทางจังหวัดฯจำเป็นต้องให้จัดระเบียบรถรางนั้น สืบเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวร้องเรียนถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยมีการจัดเก็บค่าโดยสารแพงและไม่เป็นธรรม มีการแย่งชิงผู้โดยสาร การเดินรถไม่ปลอดภัย มีการแบ่งปันผลประโยชน์ไม่ทั่วถึง เนื่องจากมีนายทุนนอกพื้นที่รวมหัวกับผู้นำในพื้นที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ จนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น จนทำให้มีการก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผู้นำบางกลุ่มจนอาการสาหัสปางตาย กระทั่งทางจังหวัดจึงมีนโยบายให้ยุบรวมกลุ่มเดินรถทั้งหมดให้รวมกันเป็นกลุ่มเดียว และให้ดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่และกำหนดเส้นทางเดินรถอย่างถูกกฎหมาย ให้แบ่งปันผลประโยชน์อย่างทั่วถึงเป็นธรรมกับชาวบ้าน รวมทั้งป้องกันนายทุนและนอมินีเข้ามากอบโกยอีก
