นครพนม – วันที่ 28 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี นางปรียาภรณ์ หงส์โต หรือศรีพิมพ์ อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 3/10 ซอยประชาสามัคคี ถนนนครพนม-ท่าอุเทน ต.อาจสามารถ เขตเทศบาลเมืองนครพนม รับราชการครูชำนาญการพิเศษ(ซี 8) โรงเรียนเทศบาล 3(พินิจพิทยานุสรณ์) ถนนศรีเทพ ต.ในเมือง เทศบาลเมืองนครพนม ร้องขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าว เนื่องจากถูกสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครพนม ประกาศยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นบ้านที่ตนเองเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆเพียง 2 เดือนเท่านั้น
โดยเรื่องทั้งหมดเกิดจากอาแท้ๆชื่อนายต้อย(นามสมมุติ) เป็นนักข่าวสังกัดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง นำเอกสารมาให้เซ็นค้ำประกัน อ้างว่าจะให้ช่วยลูกสาวฝาแฝดเข้าทำงาน แต่ปรากฏว่ากลับนำไปค้ำประกันให้คนอื่นคือนางวัชรวรรณ ราญมีชัย ได้เป็นตัวแทนประกันวินาศภัยประจำจังหวัด แล้วไม่ยอมส่งเบี้ยประกันจำนวน 120,000 บาท ให้กับสำนักงานใหญ่ ทำให้ตัวเองถูกบริษัทมิตรแท้ประกันภัยยื่นฟ้องศาล และสำนักงานบังคับคดีประกาศยึดบ้าน ราคาประเมินเกือบ 1,000,000 บาท เพื่อนำออกขายทอดตลาด
ซึ่งนางปรียาภรณ์ยอมรับว่าตนเองไว้ใจญาติที่มีศักดิ์เป็นอามากเกินไป จึงตกเป็นเหยื่อถูกหลอกมานานถึง 12 ปีเต็ม จากนั้นก็ไปยื่นเรื่องร้องทุกข์ถึง นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.ฯ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม เบื้องต้น นายสุกิจ กลีบแก้ว ผอ.ฯ แนะนำให้ไปขอชะลอการนำทรัพย์ขายทอดตลาดกับสำนักงานบังคับคดี แล้วไปคัดลอกคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครพนม เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาว่า ลายมือชื่อที่เซ็นลงไปในเอกสารนั้นใช่ลายมือของผู้ร้องหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
หลังจากได้รับคำแนะนำนางปรียาภรณ์ จึงเดินทางไปยังสำนักบังคับคดี เพื่อขอชะลอการนำบ้านขายทอดตลาด โดยจะมีการออกหนังสือเชิญบริษัทมิตรแท้ประกันภัยมาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ในวันที่ 3 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ต่อมาก็ไปขอคัดลอกคำพิพากษาจากศาลจังหวัดนครพนม เมื่อเจ้าหน้าที่นำสำเนาเอกสารต้นขั้วออกมาให้ดู นางปรียาภรณ์ถึงกับตกใจ เพราะลายเซ็นชื่อของตนถูกปลอมแปลง นอกจากนี้ยังปลอมลายมือชื่อของอดีตสามีในฐานะพยานด้วยคือ นายพีรวัส หงษ์โต อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 14 ซอยประชาสุขสันต์ ถนนกลางเมือง ต.ในเมือง เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพราะปกติอดีตสามีไม่เคยเซ็นชื่อ จะทำนิติกรรมอะไรจะเขียนเป็นตัวหนังสือชัดเจน
หลังได้สำเนาเอกสารนางปรียาภรณ์ โทรศัพท์บอกอดีตสามีว่าถูกปลอมลายเซ็น นายพีรวัสจึงรีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองนครพนม และนางปรียาภรณ์ แจ้งว่าพบลายมือชื่อของตน ถูกปลอมเพื่อนำไปค้ำประกัน การเข้าทำงานของนางวัชรวรรณหรือน้อย ซึ่งไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนปลอมลายมือชื่อดังกล่าว จึงแจ้งชื่อผู้เกี่ยวข้องไป 3 คน หนึ่งในนั้นคือนายต้อย อีกสองคนเป็นนางวัชรวรรณกับสามีที่เลิกรากันไป
ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ พนักงานสอบสวน จึงให้นางปรียาภรณ์เขียนชื่อสดทั้งลายเซ็นและตัวบรรจง เพื่อจะขอให้บริษัทมิตรแท้ประกันภัย ส่งเอกสารตัวจริงมาประกอบเปรียบเทียบกัน โดยจะต้องนำไปให้พิสูจน์ลายมือชื่อที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐานตำรวจ 102 ถนนสุรนารายณ์ จังหวัดนครราชสีมา ส่วนบุคคลทั้งสามยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา หากหลักฐานพิสูจน์ได้ว่ามีการปลอมแปลงจริง ก็จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นจะเชิญตัวผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำก่อน รายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มผู้ถูกกล่าว ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน พร้อมบอกคนใกล้ชิดว่า ไม่มีหลักฐานจะมาเรียกร้องเอาอะไร
