พิษณุโลก ตำรวจสภ.วังทอง ตามรวบตัวหนุ่มโหดทุบหัวหลวงตามรณภาพคาวัด สารภาพดื่มสุราจนเมาทะเลาะกันเรื่องเงินเดิมพันมวยตู้
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2561 ที่ผ่านมา มีคนร้ายใช้ของแข็งทุบศีรษะพระสมศรี อภิวณโณ หรือหลวงตาศรี อายุ 63 ปี พระลูกวัดหัวสะพานร่วมใจ หมู่ 7 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ก่อนจะชิงทรัพย์สินเป็นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ แบบ 4 ประตู สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน กบ 8620 พิษณุโลก ซึ่งเป็นรถของทางวัดหลบหนีไป กระทั่งมีชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดพบหลวงตาศรีนอนหมดสติ และได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะมีบาดแผลฉีกขาดฉกรรจ์เลือดไหลอาบเปรอะเปื้อนจีวร ดวงตาข้างซ้ายเขียวช้ำ ร่างกายสะบักสะบอมจนเสียชีวิตในที่สุด ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 มี.ค.2561 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ดีมาก รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผกก.สภ.วังทอง พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจชุดคอมมานโด ภาค 6 ได้ควบคุมตัวนายมาฆะตา สีใส อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/7 ต.ขลุง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังจากติดตามไปจับกุมได้ขณะหลบหนีซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พร้อมควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านและลูกศิษย์วัดที่ทราบข่าวเดินทางมาดูหน้าคนร้ายและส่งเสียงสาปแช่งอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังบริเวณโดยรอบและกั้นไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้ หวั่นจะเกิดความชุลมุนหรือมีคนเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา
เบื้องต้น นายมาฆะตา สีใส ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้เข้ามาในวัดแห่งนี้ตั้งแต่ช่วงเที่ยง เพื่อจะขอเข้ามาบวชเป็นพระเพราะรู้จักคุ้นเคยกับหลวงตาศรีเป็นอย่างดี ก่อนจะซื้อสุรามานั่งดื่มกินจนเมาได้ที่ แล้วไปนั่งกินต่อที่กุฏิของหลวงตาศรีจนมืดค่ำ ซึ่งหลวงตาศรีได้ชักชวนตนเองเปิดทีวีดูการแข่งขันชกมวยและมีการพนันกันเกิดขึ้น แต่หลวงตาศรีเสียพนันไม่ยอมจ่ายเงินให้เป็นจำนวน 2,500 บาท อีกทั้งยังพูดจาท้าทายตนว่า “มวยแพ้ฉันไม่แพ้” จึงสร้างความโกรธแค้นโมโหสุดขีด คว้าแท่งเทียนไขขนาดใหญ่ยาวกว่า 2 ฟุต กระหน่ำตีที่ศีรษะของหลวงตาศรีแบบไม่ยั้งมือจนเทียนหักสลบแน่นิ่งไปต่อหน้า จากนั้นได้ขโมยกุญแจรถกระบะที่แขวนอยู่หน้ากุฏิไปไขเปิดประตูรถของวัดขับหลบหนีไปกับความมืด ทั้งนี้ตนก็ไม่ทราบว่าหลวงตาศรีจะถึงขึ้นมรณภาพ จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด.
……………………………………………………………………………………………
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: