พลเรือโท พงษ์ศักดิ์ จุลกาญจน์ หัวหน้าสำนักงานผู้บังคับบัญชา ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับลูกเรือไทยในโซมาเลีย ที่ถูกนายจ้างไทยทอดทิ้งกลับสู่ประเทศไทยแล้ว
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 12 สิงหาคม 2562 ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ พลเรือโท พงษ์ศักดิ์ จุลกาญจน์ หัวหน้าสำนักงานผู้บังคับบัญชา ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พร้อมด้วยพลเรือตรี โสภณ รัชตาภิรักษ์ รองหัวหน้าสำนักงานฯ ผู้แทนจากกรมประมง และผู้แทนจากกรมเจ้าท่า ร่วมกับกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ 18 ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกนายจ้างไทยทิ้งอยู่ในทะเลโซมาเลีย ที่เดินทางกลับสู่ประเทศไทย ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 518 มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเช้าของวันนี้
ในการเดินทางกลับของลูกเรือประมงไทยทั้ง 18 คนในครั้งนี้ เป็นการร่วมบูรณาการให้ความช่วยเหลือจาก หน่วยงานใน ศรชล.ประกอบด้วย กองทัพเรือ กรมประมง และกรมเจ้าท่า ตลอดจนกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากคณะลูกเรือประมงเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงานได้พาลูกเรือทั้งหมด 18 คน เดินทางไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความช่วยเหลือ หลังจากนั้นกรมการจัดหางาน จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดรถรับ – ส่ง ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสาร (หมอชิต) เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา
ข่าวจากสื่อออนไลน์ ในการขอความช่วยเหลือจากนาย เรวัตร ป้องขาว ลูกเรือประมงไทย ซึ่งทำงานอยู่บนเรือประมงชื่อ WADANI 1 ผ่านทาง Facebook ว่าพบเรือประมงสัญชาติไทยลอยลำอยู่บริเวณทะเลในประเทศโซมาเลีย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. จึงได้ประสานกับกองทัพเรือ โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ซึ่งได้มอบหมายให้นายทหารประสานงานของกองทัพเรือประจำกองเรือเฉพาะกิจผสม CTF151 มีที่ตั้งอยู่ ณ ราชอาณาจักรบาห์เรน ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานให้เรือ และอากาศ ในกองเรือเฉพาะกิจผสม CTF151 ทำการตระเวนบริเวณทะเลในประเทศโซมาเลีย แต่ไม่พบ จึงร้องขอกองกำลังทางเรือสหภาพยุโรป (EUNAVFOR) ใช้เครื่องมือดักรับสัญญาณช่วยเหลือทางทะเล หรือสัญญาณวิทยุขอความช่วยเหลือ จนในที่สุดทราบว่าเรือประมง WADANI 1 จอดเทียบท่าเรือของโซมาเลีย และจากการสอบถามลูกเรือ WADANI 1 มีความประสงค์ที่กลับประเทศไทย จึงได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือ
จากการตรวจสอบทะเบียนเรือประมง WADANI 1 และเรือประมง WADANI 2 ซึ่งที่ปรากฏเรือทั้ง 2 ลำได้เพิกถอนทะเบียนเรือไทย โดยเจ้าของเรือได้ขายเรือดังกล่าวให้กับเจ้าของเรือชาวอิหร่านตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 และกรมเจ้าท่าได้เพิกถอนทะเบียนเรือไทยเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของกรมประมงได้ตรวจสอบฐานข้อมูลเรือประมงแล้ว ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อเรือประมงนอกน่านน้ำไทย ดังนั้นโดยสถานะทางกฎหมายเรือดังกล่าวไม่ใช่เรือไทย และต่อมาได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ให้ประสานให้การช่วยเหลือลูกเรือประมงดังกล่าว และกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยทั้ง 18 คน โดยอาศัยช่องทางทางการทูต และเครือข่ายองค์การเพื่อการย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ (IOM : International Organization for Migration) โดยทาง สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้อำนวยความสะดวกในเดินทางออกจากสนามบิน เมือง Bosaso รัฐ Puntland ของโซมาเลีย โดยลูกเรือไทยเดินทางถึงสนามบินเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมี กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ อำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับไทย
