ชัยภูมิ – วอนอย่าตื่นตระหนก ทางจังหวัดพร้อมรับมือได้และล่าสุดหาแหล่งน้ำมาช่วยผลิตประปาในโซนเศรษฐกิจตัวเมืองได้เพิ่มอีกไม่เกิน 2 เดือน หลังเดิมเหลือเพียงไม่เกิน 20 วัน ซึ่งล่าสุดผู้ว่าฯชั ยภูมิ ควงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรองผู้ว่าการประปา-ผอ.รพ.ชัยภูมิ เปิดแถลงหลังมีข่าวลือสร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวชัยภูมิไปทั่ว หลังเกิดปัญหาภัยแล้งหนักจนล่าสุดทำให้รพ.ประจำจ.ชัยภูมิ ไม่มีน้ำประปาใช้หวั่นกระทบผู้ป่วย ทางจังหวัดขอยืนยันไม่เป็นความจริง ซึ่งล่าสุดทางทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนรับมือความพร้อมรับมือได้ทั้งหมดแล้ว ทั้งล่าสุดชุดเคลื่อนที่เร็วรถน้ำจาก อบจ.ชัยภูมิ ลุยเยียวยา 2 รร.เด็กมาเรียนไม่มีน้ำใช้เป็นการด่วนแล้ว!
( 16 ส.ค.62 ) ความคืบหน้าสถานการณ์ภัยแล้งพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ที่ยังคงขยายวงกว้างหนักต่อเนื่องในรอบกว่าหลายสิบปีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ล่าสุดเขื่อนลำปะทาวล่าง แหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาให้กับโซนเศรษฐกิจเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ เหลือน้ำส่งผลิตประปาให้ได้อีกเพียงไม่เกิน 20 วัน จำเป็นต้องลดแรงดันน้ำประปาจ่ายน้ำน้อยลง เพื่อให้มีน้ำประปาได้ใช้นานที่สุดจากนี้ไป พร้อมประกาศแจ้งเตือนขอประชาชนในพื้นที่ช่วยกันเตรียมรับมือใช้น้ำอย่างประหยัด มาตั้งแต่วานนี้(15 ส.ค.62)
จนล่าสุดวันนี้เกิดข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าผลกระทบภัยแล้งปีนี้ที่จ.ชัยภูมิ ทำให้โรงพยาบาลชัยภูมิ ไม่มีน้ำประปาให้ใช้แล้ว จนสร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนไปทั่วทั้งจังหวัด
ซึ่งล่าสุดเองเมื่อช่วงเวลา 10.00 น.วันที่ 16 ส.ค.62 ที่ผ่านมา ทางด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายมงคล วัลญะเสรี รองผู้ว่าการประปา ส่วนภูมิภาค และนายแพทย์ประเสริฐ ชัยวิรัตนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยภูมิ ได้เรียกประชุมด่วนร่วมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาภัยแล้งจ.ชัยภูมิ ก่อนขอเปิดแถลงข่าวชี้แจงต่อข่าวลือว่ารพ.ชัยภูมิ ขาดน้ำประปาใช้ที่เกิดขึ้น ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้งจ.ชัยภูมิ ณ หอประชุมศาลาประชาคมจังหวัดชัยภูมิ
โดยนายณรงค์ ฯ ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ต่อกรณีที่มีข่าวลือออกไปในขณะนี้ว่ารพ.ชัยภูมิ ไม่มีน้ำประปาใช้ ไม่เป็นความจริงเด็ดขาดขอประชาชนชาวชัยภูมิ อย่าหลงเชื่อจนเกิดความตื่นตระหนกไปทั่วจังหวัดในขณะนี้เด็ดขาด
ซึ่งศูนย์บัญชาการแก้ภัยแล้งจ.ชัยภูมิ ได้มีการเปิดขึ้นเพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งตลอด 24 ชม.จากนี้ไปจนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเป้าหมายการแก้ปัญหาภัยแล้งในปีนี้ ขอยืนยันว่าจ.ชัยภูมิ มีแผนเตรียมรับมือได้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะไม่ให้มีพื้นที่ใดประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการขาดน้ำอุปโภคบริโภคได้เด็ดขาด
ซึ่งการแก้ไขปัญหาระบบประปาสาขาชัยภูมิ ที่ล่าสุดเองได้มีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิ โดยเฉพาะโซนเศษฐกิจในตัวเมืองชัยภูมิทั้งหมด ให้ช่วยกันประหยัดน้ำหลังมีต้นทุนน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนลำปะทาว(ตอนล่าง) เหลือเพียง 1.6 ล้าน.ลบ.ม. จะมีต้นทุนน้ำมาช่วยผลิตประปาจกจ่ายให้ในพื้นที่ได้อีกไม่เกิน 20 วัน ทางศูนย์บัญชาการแก้ภัยแล้ง เองล่าสุดก็ได้ประสานทางชลประทานที่มีเขื่อนลำปะทาว(ตอนบนอีกจุดที่มีความจุกว่า 44 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันเหลือน้ำให้ใช้ด้านการประปาได้อีกกว่า 2.6 ล้าน ลบ.ม.
ที่การแก้ไขปัญหาน้ำที่จะเหลือใช้ด้านการประปาเขตตัวเมืองชัยภูมิ ได้อีกไม่เกิน 20 วัน ก็จะได้ต้นทุนน้ำจากเขื่อนลำปะทาวบนปล่อยลงมาช่วยเพิ่มได้อีกกว่า 2.6 ล้าน ลบ.ม. ที่ล่าสุดก็จะสามารถเข้ามาช่วยเสริมด้านการผลิตประปาให้กับชาวตัวเมืองชัยภูมิ ขยายเวลายาวนานเพิ่มขึ้นได้อีกไม่เกิน 2 เดือน ซึ่งจากนี้ไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางกรมอุตุฯ เอง ก็คาดว่าจะมีฝนตกลงมาเพิ่มน้ำในเขื่อนต่อเนื่องได้ ปัญหาการประปาขาดน้ำในจุดนี้ก็จะช่วยคลี่คลายลงได้ แต่หากฝนไม่ตกในปีนี้จ.ชัยภูมิ มีแผนรองรับได้ไม่ให้เกิดปัญหาขาดน้ำในพื้นที่อย่างแน่นอนในปีนี้ แต่ปีหน้า ก็จะเป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกันหาแนวทางวางแผนเพิ่มเติมกันต่อไปให้ได้อีกครั้ง
รวมทั้งในจุดพื้นที่ปัญหามีราษฎรชาวบ้านในพื้นที่ใดที่ จ.ชัยภูมิที่ประสบปัญหาขาดน้ำอุปโภคบริโภคซึ่งขณะนี้ทางจ.ชัยภูมิได้ประกาศเป็นเขตประสบภัยแล้งทั้งจังหวัดแล้ว ก็จะมีชุดเคลื่อนที่เร็วทั้งจากผู้นำท้องถิ่น อบต. เทศบาล อบจ.ที่ก็จะสามารถนำรถน้ำมาบรรทุกน้ำประปาฟรีออกไปแจกจ่ายชาวบ้านที่ขาดแคลนได้ทันทีด้วย ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ภัยแล้งที่ถึงแม้จะหนักหน่วงสุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีแผนเตรียมรับมือได้ทั้งหมดได้ในปีนี้ และสิ่งสำคัญคือน้ำทุกหยดในขณะนี้ขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดให้มากที่สุดและเราจะช่วยกันผ่าวิกฤตภัยแล้งร่วมกันผ่านภัยแล้งหนักปีนี้ไปได้
ขณะที่ด้าน ดร.มนตรี ชาลีเครือ นายก อบจ.ชัยภูมิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเองขณะนี้ก็ได้เร่งลงพื้นที่กันตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ายันเย็นของทุกวันตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ความช่วยเหลือนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่หลังประสบปัญหาวิกฤตภัยแล้งหนักสุดในพื้นที่รอบกว่า 50 ปี ซึ่งล่าสุดมีทั้งครูนักเรียนและชาวบ้าน ใน 2 หมู่บ้าน ในเขตบ้านป่ายาง หมู่ที่ 3 ตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ และ นักเรียนโรงเรียนลุ่มลำชีนิรมิตวิทยา ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหาขาดแคลนน้ำใช้ในหมู่บ้านและโรงเรียนอย่างหนัก เพื่อให้ได้มีแหล่งเก็บน้ำ ไว้ใช้อุปโภคบริโภคเป็นการด่วนด้วยอีกทางแล้ว
