X

ผงะ!พบหลักฐานเด็ดบาตรน้ำมนต์มรณะที่ใช้ทำให้สาว18ดื่มจนชักตาตั้งดับแล้ว

ชัยภูมิ – เจ้าหน้าที่ตำรวจชัยภูมิบุกค้นวัดร้างอีกรอบ เร่งหาหลักฐานการทำน้ำมนต์ต้นเหตุมรณะที่ทำให้เด็กสาว 18 ดื่มจนชักตาตั้งเสียชีวิต จนพบหลักฐานเด็ดถึงต้องกลับผงะพบบาตรน้ำมนต์จำนวน 2 ใบเร่งเก็บหลักฐานส่งตรวจสอบเป็นการด่วนต่อไป

( 2 เม.ย.61 ) ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดในการเร่งคลี่คลายคดีกลุ่มพระต่างถิ่นที่อ้างตัวมีคูรวิเศษ ทักให้ครอบครัวชาวบ้านพาบุตรสาว 18 ปี ที่อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ว่าถูกคุณไสย์มนต์ดำ ต้องให้มาเข้าทำพิธีดื่มน้ำมนต์ที่พระกลุ่มดังกล่าวจำนวน 2-3 รูป พร้อมลูกศิษย์ที่เป็นชาวบ้านอีก 3 คน ทำให้ดื่มให้หมดจำนวน 2 บาตรพระ จนเป็นสาเหตุทำให้เด็กสาว 18 ปี รายนี้เกิดอาการอาเจียนรุนแรงจนทำให้ล้มชักตาตั้งและช็อคเสียชีวิตมาตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.61 ที่ผ่านมา ก่อนที่พระกลุ่มนี้พร้อมลูกศิษย์จะพากันหลบหนีออกจากวัดร้างในหมู่บ้านท่าเว่อ หมู่ที่ 11 ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งยังหลบหนีลอยนวลไปได้ขณะนี้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แก้งคร้อ สืบทราบว่าพระดังกล่าวไปใครมาจากไหนทั้งหมดแล้ว ซึ่งล่าสุดอยู่ด้วยกันทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเพียง 2 รูปและเตรียมขออนุมัติขอหมายศาลออกหมายจับกลุ่มพระดังกล่าวต่อไปในเร็วๆนี้ต่อไป

ซึ่งล่าสุด ด้านพ.ต.อ.จาตุรนต์  ตระกูลปาน ผกก.สภ.แก้งคร้อ ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.ต.วิญญู พื้นหินลาด สว.สอบสวนและชุดสืบสวนลงพื้นที่เข้าตรวจสอบหาหลักฐานภายในวัดร้างดังกล่าวเพื่อหาหลักฐานภายในวัดอย่างละเอียดอีกครั้งเพิ่มเติม โดยมีผู้นำชุมชน ชาวบ้านนำชุด จนท.ตร.ใช้กุญแจเปิดประตูศาลาวัดที่เกิดเหตุเข้าไปตรวจสอบหาหลักฐานครั้งนี้เพิ่มเติมร่วมกันหลายฝ่าย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในครั้งนี้ด้วย

จนล่าสุดไปกับหลักฐานบาตรพระ 2 ใบ ที่ใช้ทำน้ำมนต์ให้เด็กสาว 18 ปี ดื่มจนเสียชีวิตครั้งนี้เพิ่มเติมแล้ว  ซึ่งมีร่องรอยการทำน้ำมนต์มรณะครั้งนี้เพิ่มเติมในศาลาวัดร้างอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งกระติกน้ำมนต์ใบใหญ่ข้างในมีน้ำมนต์เกือบเต็มและพบน้ำมนต์ที่เตรียมกรอกใส่ขวดพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นอีกป็นจำนวนมาก

และจากการตรวจสอบรอบๆบริเวณศาลาวัดร้าง ยังไปพบโอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้เก็บทำน้ำมนต์ไว้ให้คนที่ศรัทธากลุ่มพระดังกล่าวมาขออาบและช่วยทำพิธีล้างคุณไสย์ให้ก็บไว้ภายในโอ่งขนาดใหญ่อีกจำนวนมากที่ตั้งอยู่ด้านหลังของศาลาเมื่อเปิดพบว่ามีน้ำอยู่เต็มทุกโอ่ง และยังพบร่องรอยการประกอบอาหารแต่ไม่พบว่าไม่มีผู้อาศัยอยู่ในวัดและข้าวของเครื่องใช้ถูกทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก

ซึ่งจากสอบถามด้านชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบๆวัดร้างดังกล่าว ชาวบ้านส่วนใหญ่เปิดเผยว่า วัดแห่งนี้จริงๆแล้วไม่ได้เป็นวัดร้าง เพียงแต่ไม่มีพระจำวัดอยู่และปัจจุบันไม่มีเจ้าอาวาส เนื่องจากเจ้าอาวาสเดิมและพระที่เคยอยู่มีประวัติประพฤติตัวไม่ค่อยเหมาะสมจนชาวบ้านขาดศรัทธาไม่มีใครไปวัด เจ้าอาวาสและพระจึงพากันปล่อยวัดทิ้งร้างไป โดยปัจจุบันยังมีสามเณรที่ทราบชื่อเพียงว่าสามาเณรลีโอ จำวัดอยู่ที่วัดร้างแห่งนี้เหลือเพียง 1 รูป ในปัจจุบันแต่ในช่วงเกิดเหตุสามาเณรดังกล่าวได้เดินทางไปศึกษาธรรมะที่วัดต่างจังหวัดได้ประมาณกว่า 1เดือนแล้ว

จนมีกลุ่มพระดุธงด์จากต่างถิ่นกลุ่มนี้เดินทางมา ขอพักอยู่ที่วัดดังกล่าวและเริ่มตั้งตัวเป็นสำนักสงฆ์รับทำน้ำมนต์เสกน้ำมนต์ให้คนดื่มเพื่ออ้างช่วยร้างอาถรรพ์ให้กับคนที่ถูกคุณไสย์มนต์อะไรต่างๆเกิดขึ้นตามมา จนมาก่อเหตุทำน้ำมนต์ให้สาว 18 ปี ดื่มจนมีคนเสียชีวิตดังกล่าวครั้งนี้ขึ้น ก่อนพระทั้งหมดจะพากันหลบหนีออกจากวัดไปทั้งหมดอีกครั้งนี้

และชาวบ้านอีกราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ที่วัดนี้จะร้างขาดพระและเจ้าอาวาสลงตั้งแต่เมื่อช่วงเมื่อต้นปี 60 ก็พระโล้นที่เป็นพระอดีตเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวเอง ที่เคยถูกกลุ่มชาวบ้านหมู่ 10 ต.ท่ามะไฟหวานได้ขับไล่ให้ออกจากวัดหลังพบปฎิบัติตัวไม่เหมาะสมหลายๆอย่างจนชาวบ้านทนไม่ไหว จนพระโล้นได้ออกจากวัดแห่งนี้ไป

หลังจากนั้นทราบข่าวว่าพระโล้นได้ไปจำวัดอยู่ที่จ.เลย จนกลับมาในพื้นที่อีกครั้งเมื่อประมาณช่วงตั้งแต่ต้น มี.ค.61ที่ผ่านมา โดยมีพระอีกรูปเดินทางมาด้วยชื่อหลวงพ่อบุญ อายุ 61 ปี ซึ่งพระที่มาด้วยครั้งนี้ชาวบ้านก็ทราบว่าเป็นพระที่มีภูมืลำเนาเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านท่าเว่อ ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ที่เคยเป็นคนในท้องถิ่นนี้เช่นกัน

ซึ่งหลังพระทั้ง 2 รูปที่อ้างว่าเป็นพระเร่ร่อนมาจากต่างถิ่นดังกล่าวเอง และได้มาขออาศัยจำวัดร้างดังกล่าว แล้ว เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ค่อยพากันศรัทธาไม่ได้สนใจพระทั้ง 2 รูปนี้เท่าไรนัก เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งทราบกันดีว่าเป็นพระที่เคยมีประวัติไม่ได้ และตอนเช้าๆพระทั้ง 2 รูปนี้จะออกบิณฑบาตรชาวบ้านในหมู่บ้านก็ไม่ค่อยใส่บาตรกัน จนพระทั้ง 2 ต้องออกไปบิณฑบาตรนอกหมู่บ้านถึงจะได้อาหารกลับมาฉันโดยชาวบ้านให้เหตุผลว่า พระรักษาศีลไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะนับถือไปทำไม และในที่สุดก็มาก่อเหตุดังกล่าวทำน้ำมนต์ให้เด็กสาว 18 ปี ดื่มจนเสียชีวิตครั้งนี้ขึ้นอีกและหลบหนีไป ซึ่งล่าสุดมีพระร่วมก๊วนกันมีทั้งหมดด้วยกันเพียง 2 รูป และมีลูกศิษย์จากต่างถิ่นที่ตามมาด้วยอีก 3 คนเท่านั้น

ด้าน พ.ต.ต.วิญญู  พื้นหินลาด หัวหน้าชุดสว.สอบสวน สภ.แก้งคร้อ ชุดคลี่คลายคดีนี้ฯ กล่าวว่าจากการตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติมภายในวัดอย่างละเอียดจนท.ตร.พบหลักฐานเด็ดที่จะสามารถนำไปส่งตรวจพิสูจน์เป็นหลักฐานเพิ่มเติมได้อีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นบาตรพระ 2 ใบที่ใช้ทำน้ำมนต์ให้เด็ก18 ดื่มจนเป็นเหตุเสียชีวิตครั้งนี้ และถังน้ำมนต์ ซึ่งจะนำคราบน้ำมนต์ที่ได้ส่งไปตรวจตามขั้นตอนหาสารประกอบเพิ่มเติมที่ชัดเจนต่อไป ว่าในน้ำมนต์ที่ทำครั้งนี้มีอะไรสารส่วนผสมอะไรอยู่บ้างและคาดว่าน่าจะได้ผลสรุปเร็วๆนี้เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับกลุ่มพระดังกล่าวส่งดำเนินคดีต่อไป

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]