ปทุมธานี ฮือฮา 4 ฆราวาสจอมขมังเวทย์ ร่วมอธิษฐานจิตในพิธีเทวาภิเษก เซียนแปะ โรงสี รุ่น พรเหนือฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พระอุโบสถวัดศาลเจ้า ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี คุณประวิทย์ มาลีนนท์ พร้อมคณะ Thai Fight ประธานจัดพิธีพุทธาถิเษก วัตถุมงคล ท่านอาจารย์ โง้วกิมโคย (เซียนแปะโรงสี) หลวงพ่อชำนาญ วัดชินวราราม ประธานจุดเทียนชัย ดร.พินิจ บุญเลิศ ผวจ.ปทุมธานี ได้ให้เกียรติเดินทางมาจุดเทียนมงคลซ้ายขวา พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 11 รูป พร้อมด้วยฆาราวาสจอมขมังเวทย์ 4 ท่าน เข้าร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล รุ่น “พรเหนือฟ้า”
พระเกจิอาจารย์ที่เดินทางมาเข้าร่วมในพิธี ปลุกเสกวัตถุมงคล เซียนแปะโรงสี ณวัดศาลเจ้า ประกอบด้วย พระครูสมุห์นภาลัย รัตนชวณฺโณ (พระอาจารย์ปาน) วัดศาลเจ้า , พระพระมหาสุรศักดิ์ อดิสักโข วัดประดู่ . หลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี . หลวงพ่อล้าน เขมจิตฺโต วัดขนาย . หลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์ . หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม . ครูบาบุณยัง วัดห้วยน้ำอุ่น . พระอาจารย์ต๋อง อิทฺธิเตโช วัดคูบางหลวง . หลวงปู่อ้อน วัดบางตะไนย์ . หลวงปู่ขวัญ วัดบางคูวัดนอก พร้อมด้วยฆาราวาสจอมขมังเวทย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับว่ามีฌาณแก่กล้า ได้แก่ อาจารย์เทียม ใจซื่อ . อาจารย์ประคอง เข็มทอง , อาจารย์ประวิทย์ . อาจารย์เขีบว เทพทอง (นายกสมาคมส่งเสริมการเรียนรู้ยันต์และโหราศาสตร์)
โดยวัตถุมงคลที่ทำพิธีปลุกเสกในครั้งนี้ ได้ผ่านการปลุกเสก ที่ศาลปุงเถ่ากง จ.เชียงใหม่ . ศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ จ.นราธิวาส . วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.อุดรธานี . วัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) จ.ฉะเชิงเทรา , ศาลเจ้าพ่อกวนอู (เล่าซินเฮงตั่ว) จ.ราชบุรี . วัดมังกรบุปผาราม (เล่งฮั่วยี่) จ.จันทบุรี , หลวงพ่อโตซำปอกง วีดอุภัยภาติการาม จ.ฉะเชิงเทรา . โรงเจเซ่งซิ่วตั๋ว จ.กาญจนบุรี , วัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส) กทม.ฯ ซึ่งเป็สสถานมงคลศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว 9 วาระ และ วัดศาลเจ้า จ.ปทุมธานี ถือเป็นสถานมงคลศักดิ์สิทธิ์ในวาระที่สุดท้าย ครบทั้งหมด 10 วาระ ในการปลุกเสกวัตถุมงคล รุ่น “พรเหนือฟ้า” ตามที่ได้ตั้งเจตนาไว้
“แปะ โรงสี” หรือนายกิมเคย หรือกิมโคย แซ่โง้ว เกิดที่ประเทศจีน ติดตามบิดามารดาเข้ามาถึงพระบรมโพธิสมภารตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเติบโดขึ้นมาก็ประกอบอาชีพค้าขายข้าวเปลือก ต่อมาเมื่อกิจการดีขึ้นจึงได้ร่วมลงทุนทำกิจการโรงสีข้าว และแต่งงานกับนางศรี เอี่ยมเข่ง และเริ่มดำเนินกิจการโรงสีที่เป็นของตนเองที่บริเวณปากคลองเชียงราก เยื้องกับวัดศาลเจ้าในนาม”โรงสีไฟทองศิริ และโอนสัญชาติเป็นไทย รวมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น นายนที ทองศิริ
ด้วยอุปนิสัยของท่านที่เป็นคนโอบอ้อมอารีย์ ชอบชี้แนะและให้ความช่วยเหลือผู้อื่น อีกทั้งยังเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาคม มีวิชาไล่ฝน ปรับเปลี่ยนดินฟ้าอากาศ จนลูกศิษย์ที่เคารพนับถือยกย่องให้เป็นเซียน เรียกกันว่าเซียนแปะ โรงสี ทั้งนี้ท่านมักจะช่วยชี้แนะแก่ลูกศิษย์เกี่ยวกับเรื่องฮวงจุ้ย ทำเลที่ตั้งร้านค้าบ้านเรือนโดยไม่คิดค่าตอบแทน ซึ่งผู้ที่ได้รับคำแนะนำหรือชี้แนะจากท่าน จะประสบความสำเร็จกิจการค้าขายเจริญรุ่งเรืองจนเป็นที่เลื่องลือ แม้แต่เจ้าสัวใหญ่ระดับประเทศ ก็ยังได้รับคำชี้แนะจากเซียนแปะ จนกิจการค้าเจริญรุ่งเรืองใหญ่โตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เซียนแปะ โรงสี ถือเป็นกำลังสำคัญในการบูรณะวัดศาลเจ้า ซึ่งในสมัยนั้นการคมนาคม การขนส่งยังลำบาก แต่ท่านไม่เคยย่อท้อ ได้ร่วมแรงร่วมใจกับผู้มีจิตศรัทธาทำการบูรณะวัดศาลเจ้าจนสำเร็จลุล่วง อีกทั้งท่านยังเป็นผู้กำหนดวันในการจัดงานประจำปีศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า คือ วันขึ้น 5 ค่ำ เดือยอ้าย หรือเดือน 1 ถึงวันขึ้น 8 ค่ำ รวมงาน 4 วัน 4 คืน ซึ่งชวาไทยเชื้อสายจีนจะเรียกช่วงนี้ว่า “เจียง่่วย ซิวโหงว ถึง เจียงง่วย ซิวโป๊ย” และยึดถือเป็นประเพณีสืบต่อมา
ความโอบอ้อมอารีย์ คอยชี้แนะให้คำแนะนำแก่ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปของเซียนแปะ ดำเนินติดต่อมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต “เซียนแปะ โรงสี” จากลูกศิษย์ไปในวันที่ 16 มกราคม 2526 ด้วยอายุ 85 ปี หลังเสร็จสิ้นพิธีศพของท่าน ทางครอบครัวและคณะศิษย์ได้จัดสร้างรูปเหมือนขนาดเท่าตัวจริง ตั้งไว้ให้เป็นที่สักการะบูชา ณ ศาลานที ทองศิริ ภายในวัดศาลเจ้า จนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้การจัดสร้างวัตถุมงคลเซียนแปะ โรงสี รุ่นพรเหนือฝ้า ขึ้นมาในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการหารายได้เพิื่อใช้ในการบูรณะพระอุโบสถรวมทั้งเสนาสนะต่างๆของวัดศาลเจ้า ให้สวยสดงดงามอยู่คู่กับชาวปทุมธานีไปตราบนานเท่านาน
