โชว์ให้เห็นจะๆ แม่ทัพ 4 งัดหลักฐานการทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาของรัฐของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา
วันที่ 2 เม.ย. ที่มณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พลตรี จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ร่วมแถลงข่าว การดำเนินการตรวจสอบการทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาของรัฐ พร้อมทั้งนำพยานหลักฐานมายืนยัน ว่าโรงเรียนบากงพิทยา มีความเกี่ยวโยงกับการทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาของรัฐ หลังจากที่เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจสอบภายในโรงเรียนบากงพิทยา บ้านบากง ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ผลการดำเนินการ ตรวจพบเอกสารปลุกระดมมวลชน เพื่อสร้างความวุ่นวายและก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชน ถังดับเพลิงและถังแก๊สปิกนิก ที่เก็บไว้ในลักษณะอำพรางซุกซ่อน ไม่ได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่อาจมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ที่น่าสงสัย และตรวจพบหลักฐานการทุจริต งบประมาณในการอุดหนุนการศึกษาของรัฐการให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อำพรางเป็นบุคลากรทางการศึกษา อยู่ในโรงเรียน
ข่าวน่าสนใจ:
- กระบะซิ่งหนีสายตรวจ แหกโค้งพุ่งลงคูน้ำดับ ยกคัน 7 ศพ พบเป็นแรงงานต่างด้าว หลายราย
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
- หนุ่มชลบุรีซิ่งมอไซค์ชนรถแม็คโครเจ็บสาหัส
ด้านพลตรี จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าโรงเรียนบากงพิทยา มีพฤติกรรมการทุจริตงบประมาณของรัฐในการให้การสนับสนุนการศึกษา ซึ่งประกอบไปด้วย
1.บัญชีรายนักเรียนที่ไม่ตรงกับจำนวนที่เข้าเรียนจริง เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีนักเรียนที่ มิได้เข้าเรียนจริงจำนวนหนึ่ง ในจำนวนนี้ พิสูจน์แล้วยืนยันว่าไม่ได้เข้าเรียน จำนวน 3 คนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ
2.ใบเสร็จรับเงินที่จัดซื้อหนังสือเรียน ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องยอมรับว่า ได้จัดซื้อจริงเพียง ร้อยละ20 ส่วนที่เหลือให้ร้านค้าเขียนใบเสร็จเต็มจำนวนเพื่อให้ได้ประโยชน์จากส่วนต่าง
3.มีการจ่ายค่าตอบแทนครู น้อยกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด กล่าวคือ กระทรวงศึกษาธิการจ่ายค่าตอบแทนรายเดือน ให้ครูที่บรรจุตามวุฒิ รายละ15,000 บาท แต่โรงเรียนจ่ายให้ประมาณ 7,000-8,000 บาท โดยอ้างว่า เป็นความสมัครใจของครู เพื่อนำเงินส่วนต่างมาเฉลี่ยจ่ายให้บุคคลอื่นที่ไม่ได้บรรจุตามวุฒิ
- มีการจ่ายค่าเสี่ยงภัยของครู น้อยกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด กล่าวคือ กระทรวงศึกษาธิการจ่ายค่าเสี่ยงภัยให้ครู รายละ2,500 บาทต่อเดือน แต่โรงเรียน จ่ายให้เพียง 1,000-1,500 บาท โดยอ้างว่าต้องนำมาเฉลี่ยให้ครูที่ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว และ
5.หลักฐานที่ใช้เพื่อเบิกงบประมาณของรัฐ พบว่ามีสถานประกอบการห้างร้านที่เกี่ยวข้องร่วมกระทำความผิดในฐานะผู้ให้การสนับสนุนอีกหลายแห่ง จึงทำการตรวจสอบ พบหลักฐานการเขียนใบเสร็จเกินจริงโดยร้านเจ๊ะฆูฟาฏอนี พบหลักฐานใบเสร็จ และเอกสารสั่งให้ดำเนินการออกใบเสร็จให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่ง แนบอยู่กับใบเสร็จดังกล่าวด้วยว่าให้ซื้อสินค้ามูลค่า 720,258.52 บาท ยอดเขียนใบเสร็จ 1,772,495 บาท ส่วนต่าง 1,052,236.48 ค่าบิล 84,158.90 บาท แสดงให้เห็นว่า มีการร่วมกันกระทำการปลอมแปลงเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเบิกงบประมาณจากรัฐและเมื่อทำการตรวจสอบไปยังโรงเรียนดังกล่าวก็พบหลักฐานที่ตรงกันกับที่ร้านเจ๊ะฆูฟาฏอนีออกให้จริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐานและสอบปากคำไว้แล้ว
ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่า โรงเรียนบากงพิทยายังได้มีพฤติกรรมให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยจากการตรวจค้นพบว่า โรงเรียนบากงพิทยา ได้จ่ายเงินรายเดือนให้กับนายซาการียา หัดสมัด ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงและเป็นผู้ก่อเหตุร้ายหลายคดี ประกอบด้วย การก่อเหตุเผาหัวจ่ายน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันปตท.ดอนยางเมื่อ 2 ก.พ.59 ก่อเหตุ กราดยิงบ้านเรือราษฎรที่ริมถนนหมายเลข 43 แยกดอนยาง อำเภอหนองจิกเป็นเหตุให้ราษฎรบาดเจ็บ8 ราย เมื่อ 15 ก.ค.59 และก่อเหตุระเบิด/เผาสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ดอนยางเมื่อ 2 พ.ย.59 โดย ถูกจับกุมเมื่อ พ.ย.๖๐ปัจจุบันถูกควบคุมตัวในเรือนจำอยู่ระหว่างดำเนินคดีปรากฏหลักฐานว่าโรงเรียนได้จ่ายค่าตอบแทนรายเดือนให้กับนายซาการียา หัดสมัด ตั้งแต่ ปี 54เรื่อยมาทุกเดือนจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ พบพฤติกรรมอำพรางในการสนับสนุนเงินผ่านบุคคลากรทางการศึกษาที่เป็นเครือญาติของนายเมาลานา สาเมาะแกนนำสั่งการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ต.ท่ากำชำและนายอับดุลสะตอปา สุหลง แกนนำสั่งการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานีสำหรับนายเมาลานา สาเมาะ เป็นบุคคลที่ถูกสำนักงาน ปปง.ขึ้นบัญชีประกาศรายชื่อเป็นบุคคลที่ถูกกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายอีกด้วยและน่าเชื่อว่า มีการให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงรายอื่นๆอีกหลายคนโดยทำธุรกรรมอำพรางผ่านผู้ที่ถูกแอบอ้างเป็นบุคคลากรทางการศึกษา บางคนในโรงเรียนหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบเฉพาะพื้นที่จังหวัดปัตตานี พบหลักฐานที่น่าเชื่อว่า มีโรงเรียนบางแห่งที่มีพฤติกรรมทุจริตงบประมาณของรัฐ เป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐประมาณ ปีละไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท ทำให้เยาวชนที่อยู่ในวัยการศึกษาตามระบบการศึกษาภาคบังคับเสียโอกาสทางการศึกษา หรือเสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณ ปีละ 101,000 คน คน จากนักเรียนทั้งหมด165,072 คน มีครูที่ได้รับการการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐเป็นค่าตอบแทนรายเดือน เสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณ 4,000 คน ทั้งนี้ ประมาณการจากหลักฐานที่ปรากฏและการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง พบว่า งบประมาณของรัฐได้ถูกใช้จริงเพียงร้อยละ 40 มีการทุจริตประมาณ ร้อยละ 60 จากเงินอุดหนุนการศึกษาของจังหวัดปัตตานี ปีละประมาณ1,260 ล้านบาท ถูกเบียดบังไปเพื่อประโยชน์โดยทุจริตประมาณ ปีละ760 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งน่าเชื่อว่าอำพรางด้วยรายชื่อของบุคคลากรทางการศึกษาซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานว่า มีคุณวุฒิด้านใดและมีความเหมาะสมอย่างไร ทั้งนี้ พบว่าโรงเรียนบางแห่งมีพฤติกรรมให้การสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรงอีกด้วย
ต่อข้อถามเกี่ยวกับโรงเรียนในพื้นที่ขณะนี้มีกี่โรงนั้น พล.ต.จตุพร ระบุว่า จากการตรวจสอบขณะนี้พบว่าโรงเรียนที่เหมือนลักษณะเดียวกันและเป็นแหล่งบ่มเพาะมีจำนวน 6 แห่งที่มีเข้าข่ายทุจริตและเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรง ทางกองทัพจะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมให้ชัดเจน ทาง ฉก.ปัตตานี ขอความร่วมมือบุคลากร ทางการศึกษาที่ถูกแอบอ้างชื่อเพื่อเป็นเส้นทางสนับสนุนความรุนแรง และถูกริดรอนสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับขอให้แจ้งมาทางเจ้าหน้าที่หรือตนโดยตรง ตนจะเร่งเข้าช่วยเหลือโดยทันที ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาฯได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงโดยร่วมมือกับ ฉก.ปัตตานี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: