พบซากอิฐโบราณ บริเวณคลองระบายน้ำริมทุ่งนา ในพื้นที่ลุ่มน้ำนางน้อย อำเภอเมืองตรัง
วันที่ 3 เมษายน 2561 พระสมุห์สุรศักดิ์ หรือฉายาสุรสัก โก เจ้าอาวาสวัดหัวถนน หมู่ที่ 6 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมด้วยนายปรีชา เดชเหมือน อายุ 63 ปี อดีตกำนัน ต.นาพละ นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปกลางทุ่งนา เส้นทางคลองระบายน้ำ ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำคู่ขนานกับคลองชลประทานที่ตัดผ่านพื้นที่ เพื่อผันน้ำให้ประชาชนชาวตำบลนาพละได้ใช้สำหรับการทำนา เพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ลงไปสูบน้ำในคลองระบายน้ำดังกล่าว เพื่อจับปลาในหน้าแล้งว่า พบซากอิฐโบราณที่ทำจากดินเหนียวถูกจัดวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ เหมือนลักษณะสิ่งปลูกสร้างโดยฝีมือมนุษย์อยู่ลึกใต้พื้นดินลงไปประมาณ 1 เมตร ริมตลิ่งคลองระบายน้ำทั้ง 2 ด้าน ระยะทางยาวประมาณ 20 เมตร ในสภาพถูกรถแบ็คโฮขุดทำคลองระบายน้ำผ่าน เผยให้เห็นอิฐโบราณที่ยังคงอยู่ในลักษณะถูกจัดซ้อนกันอย่างแข็งแรง แน่นหนา แม้จะจมอยู่ใต้น้ำมายาวนาน โดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เพราะสภาพที่เป็นอยู่คือ ทุ่งนาที่คนรุ่นปู่ย่าตายายทำมาก่อนจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าจะต้องแหล่งประวัติศาสตร์ของพื้นที่
ข่าวน่าสนใจ:
- กู้ภัยเร่งช่วยชีวิตหนุ่มขับรถกระบะตกคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- ผู้ว่าฯปัตตานี รินชาลงกลางใจมาแกแตสถานพินิจฯปัตตานี
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
ทั้งนี้ ทั้งพระสมุห์สุรศักดิ์ หรือฉายาสุรสัก โก เจ้าอาวาสวัดหัวถนน และนายปรีชา เดชเหมือน อายุ 63 ปี อดีตกำนัน ต.นาพละ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ในอดีตผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่อายุประมาณ 70 – 80 ปี ต่างก็บอกว่าบริเวณจุดที่พบเห็นซากอิฐดินเหนียวโบราณดังกล่าวนี้ ไม่เคยมีใครรู้ว่าเคยเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือโบราณสถานใดๆมาก่อน จึงเชื่อว่าน่าจะอายุหลายร้อยปีมาแล้ว เชื่ออาจเป็นโบราณสถาน หรือสถานที่ก่อสร้างเทวสถาน ขณะที่วัดหัวถนน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร ก่อสร้างขึ้นสมัยพระยาตรัง เมื่อปี 2358 ทั้งนี้ คลองชลประทานถูกขุดผ่านมาประมาณกว่า 20 ปีแล้ว และมีการขุดคลองระบายน้ำขึ้นมาใหม่เมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา เผื่อผันน้ำให้ประชาชนใช้ทำการเกษตร
นายปรีชา เดชเหมือน อายุ 63 ปี อดีตกำนัน ต.นาพละ ตนเริ่มรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่เมื่อปี 2525 เป็นผู้ใหญ่บ้าน และเป็นกำนันจนกระทั่งเกษียณอายุแล้ว ก็ไม่เคยพบเห็นสิ่งปลูกสร้างนี้มาก่อน เชื่อว่าในอดีตอาจจะเป็นการสร้างวัดเก่า หรือพื้นที่นี้อาจเคยเป็นแม่น้ำ หรือลำคลองขนาดใหญ่มาก่อน เพราะพื้นที่ใกล้กันทั้งซ้ายขวาห่างออกไปประมาณ 300 – 500 เมตร มีคลองนางน้อย และคลองน้ำเจ็ดไหลผ่าน แล้วจุดที่พบนี้ก็อาจจะเป็นแม่น้ำอีกสายหรือคลองสาขาขนาดใหญ่ แล้วอาจมีการก่อสร้างท่าเรือเล็กๆ เพื่อขนถ่ายข้าวเปลือกลงเรือ เพื่อขนออกไปขาย เพราะตั้งแต่ตนจำความได้เคยมีคนในหมู่บ้าน ขนมัดข้าวเปลือกที่เก็บได้จากนาลงเรือ ขนาดความยาวประมาณ 12 เมตร ลงเรือที่คลองนางน้อย ครั้งละเต็มลำเรือหรือประมาณ 500 มัด เพื่อนำไปขาย เพราะตำบลนาพละ และ อ.นาโยง เป็นถิ่นทำนามาตั้งแต่โบราณแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ไม่เคยเล่าให้ฟังว่า บริเวณนี้เคยเป็นแม่น้ำหรือมีท่าเรือมาก่อน เชื่ออายุหลายร้อยปี ล่าสุด กำลังประสานนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 15 จ.ภูเก็ต กรมศิลปากร ให้เดินทางมาตรวจสอบแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: