เพชรบูรณ์ – เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวิเชียรบุรี จับ 2 คนร้าย ใช้จักรยานยนต์ทรัพย์ชิงทรัพย์เด็กหญิงวัย 11 ปีกับน้องชาย ขณะกลับจากซื้อของในตลาด สุดท้ายไม่รอดเจอจับกุม
วันที่ 4 เมษายน 2561 เวลา 20.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวิเชียรบุรี ได้รับแจ้งจาก 191 เพชรบูรณ์ ว่ามีเหตุคนร้ายชิงทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือ บริเวณวัดในเรืองศรี หมู่ที่ 1 ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ หลังเกิดเหตุคนร้ายได้หลบหนี ส่วนผู้เสียหายได้รับอุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์ล้มขณะติดตามคนร้ายเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือคืน
หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.ราชัน ด้นกันเดช ร้อยเวร สภ.วิเชียรบุรี ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่า คนร้ายได้ก่อเหตุแล้วหลบหนีไป โดยใช้ยานพาหนะ มอเตอร์ไซด์ ประเภทหญิง ยี่ห้อ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียนและทิศทางที่หลบหนี ส่วนผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงวัย 11 ปี กับน้องชายวัย 8 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี นำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำแผลและตรวจรักษาในเบื้องต้น จึงได้ติดตามไปที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรีเพื่อสอบถามรายละเอียดลักษณะของผู้ก่อเหตุ พร้อมแจ้งวิทยุให้สายตรวจสกัดจับในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ
ต่อมาเมื่อเวลา 21.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ของสถานีตำรวจภูธรวิเชียรบุรี ได้พบชาย 2 คน มีพิรุธและใช้พาหนะคล้ายกับที่แจ้งว่าใช้ในการก่อเหตุ บริเวณร้านล้างอัดฉีด เยื้องธนาคารออมสิน สาขาวิเชียรบุรี จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบโทรศัพท์ของกลางพร้อมยอมรับว่ากำลังจะนำไปขาย จึงได้ดำเนินการจับกุมและนำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า คนร้ายได้แก่ นายขวัญน้อง ฟาร่า อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ที่ 10 ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้ยอบรับว่า ขณะที่ตนเองขับขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านไปในที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายพร้อมน้องชายขี่รถมาตนเองจึงโบกให้หยุดและทำทีเป็นขอยืมโทรศัพท์โดยอ้างว่ามีเพื่อนถูกตำรวจจับกุมต้องการความช่วยเหลือ หลังจากได้โทรศัพท์แล้วก็ขับรถหนีไปไม่คิดว่าผู้เสียหายจะติดตาม ส่วนเพื่อนอีกคนตนเองได้ไปรับภายหลังก่อเหตุเพื่อให้ช่วยนำโทรศัพท์ไปขาย
เด็กหญิงเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี พร้อมน้องน้องชาย อายุ 8 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ก่อเหตุที่ สถานีตำรวจภูธรวิเชียรบุรี หลังจากทำแผลเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าชี้ตัวได้ถูกต้องและยืนยันว่าของกลางเป็นโทรศัพท์ของตนเอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรวิเชียรบุรี ได้แจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการหลบหนี แก่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ก่อนคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้แม้จะเป็นเหตุเล็กน้อยและทรัพย์ที่ได้มีมูลค่าไม่มากแต่ทางสถานีตำรวจภูธรวิเชียรบุรี โดย พ.ต.อ. พีระเพชร อุบลจิตต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวิเชียรบุรี และ พ.ต.ท.อดิพัฒน์ สีไพสน รองผู้กำกับป้องกันและปรามปราม ก็ได้ให้ความสำคัญติดตามและสั่งการด้วยตนเองทำให้สามารถจับคนร้ายได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว สร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
