สระแก้ว – ด่านศุลกากรฯสระแก้ว สนธิกำลังจับเพิ่มลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศกัมพูชา 12 ตันเข้าประเทศไทย ส่วนข้าวสารเหนียว 30 ตันที่จับได้วันก่อน ศุลกากรฯเปิดประมูลขายทอดตลาดแล้ว
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 22 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์เอ็กซ์เรย์ด่านศุลกากรอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานด่านศุลกากรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 124 ร่วมกันเข้าตรวจยึดข้าวเปลือกลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยจับกุม นายวัชรินทร์ มะลิซ้อน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 215 หมู่ 12 ตำบลทัพเสด็จ อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่า ข้าวเปลือกหอมมะลิ จำนวนรวมกว่า 12 ตัน ที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศกัมพูชา ก่อนจะนำมาซุกซ่อนไว้ตามพื้นที่บ้านทัพเสรี บ้านทัพไทยและบ้านทัพเสด็จ เพื่อรวบรวมส่งขายให้กับพ่อค้าคนกลางรายใหญ่
ทั้งนี้ นายวัชรินทร์ ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองยึดอาชีพลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากฝั่งประเทศกัมพูชา มานานกว่า 2 ปี โดยนำข้าวเปลือกเข้ามาจากชายแดนในช่วงเวลากลางคืน ก่อนจะนำมากระจายวางซุกซ่อนไว้ตามบ้าน ยุ้งฉางและกระท่อม เมื่อสบโอกาสจะลักลอบขนรวบรวมไปขายตามลานรับซื้อและโรงสีในพื้นที่และอำเภอใกล้เคียง ซึ่งข้าวหอมมะลิที่รับซื้อมาในราคา กก.ละ 12.50 บาท จะขายได้ในราคา กก.ละ 14.50-15.00 บาท ภายหลังสอบสวนและบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้เจ้าพนักงานศุลกากรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ เปิดเผยว่า การลักลอบนำข้าวเปลือกเข้ามาในประเทศไทยถือว่าผิดกฎหมาย เพราะเป็นสินค้าต้องห้าม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง กรณีลักลอบนำเข้ามาในประเทศ หากเป็นข้าวเปลือกต้องนำไปทำลายและดำเนินการตามขั้นตอนศุลกากรเนื่องจากมีปัญหาเรื่องการกักโรคพืช ส่วนข้าวสารเหนียวที่จับกุมได้ 30 ตัน ขณะนี้ได้มีการเปิดประมูลไปแล้วในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เพราะหากเก็บไว้นานจะเกิดการเน่าเสียหาย ทั้งนี้ มีรายงานว่า ข้าวสารเหนียวดังกล่าวมีผู้มาประมูล 2 ราย ผู้ที่ให้ราคาสูงสุด กก.ละ 12.50 บาทเป็นผู้ประมูลได้ไป เป็นเงินเข้าหลวงจำนวนประมาณ 375,000 บาท
นายวัชรินทร์ มะลิซ้อน รับเป็นเจ้าของข้าวทั้งหมด
————————
