ชัยภูมิ – สุดคึกคักอีกบันทึกหน้าใหม่ครั้งประศาสตร์สำคัญอีกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 200 ปี เมืองชัยภูมิ ก่อนที่จะถึงวันรำถวายสักการะรำถวายจริงในช่วงต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 16 เม.ย.61 ปีนี้ ชาวชัยภูมิทั่วทั้งจังหวัดต่างพร้อมใจกันออกมาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของจังหวัดชัยภูมิ ในรอบ 200 ปี มาจนปัจจุบัน ในงานรำถวายสักการะ”รำลึก 200 ปี ผู้กล้าพญาแล” เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ
ขณะที่จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเวลา 15.30-17.00 น.วันที่ 5 เม.ย.61 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ทำการเปิดแถลงข่าวการเตรียมจัดงานรำถวายสักการะเจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ หรืองาน”รำลึก 200 ปี ผู้กล้าพญาแล” พร้อมด้วยตัวแทนประชาชนชาวชัยภูมิ จากทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ มากกว่า 2 หมื่นคน ได้นัดพร้อมใจกันออกมารวมตัวกันที่ หน้าอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล หรือพระยาภักดีชุมพล เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ
ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังพากันตั้งใจที่จะสวมใส่เสื้อผ้าชุดไทยที่มีมาแต่ดั่งเดิมของแต่ละชุมชน เพื่อเข้ามาร่วมทำการฝึกซ้อมฟ้อนรำถวาย ตั้งขบวนรำสักการะต่อหน้าลานรอบวงเวียนอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ไปเต็มทั่วถนนทั้ง 4 ทิศ ย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ ที่ถือเป็นการร่วมใจกันซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีพิธีรำถวายสักการะจริงพร้อมกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ในวันที่ 16 เม.ย.61 ที่ชาวจังหวัดชัยภูมิทุกคนถือว่า เป็นวันครบรอบ 200 ปี ให้กับเจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ มาตั้งแต่ปี 2360-2369 ที่ผ่านมายาวนานจนปัจจุบัน
โดยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 เมษายน 2561 จะถือเป็นวันที่ชาวชัยภูมิทุกหมู่เหล่า ที่จะได้พร้อมใจกันออกรำถวายสักการะแด่พระยาภักดีชุมพล(แล) หรือ เจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก เพื่อรำลึกถึงคุณความดีที่ท่านได้สร้างบ้านแปรงเมืองชัยภูมิจนเจริญรุ่งเรืองมาตราบเท่าทุกวันนี้
ครั้งนี้ชาวชัยภูมิ จึงถือเอาบริเวณรอบวงเวียนอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ซึ่งถือเป็นย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ ที่จะมีถนนมุ่งสู่อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ทั้ง 4 ทิศ โดยจะมีตัวแทนชาวบ้านจากทั่วทั้งจังหวัดจาก 1,617 หมู่บ้าน 124 ตำบล 28 ชุมชน ใน 16 อำเภอ ร่วมใจกันออกมาสวมใส่ชุดไทยพื้นที่บ้านที่ชาวชัยภูมิเคยมีมาแต่อดีตตามเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน ในการออกมาร่วมกันรำถวายสักการะต่อเจ้าเมืองคนแรกครั้งนี้ที่มีจำนวนมากกว่า 20,000 -30,000 คน ที่แจ้งความประสงค์ต่อทางจังหวัดว่าต้องการสวมชุดไทยเข้าร่วมพิธีรำถวายครั้งนี้
ซึ่งทุกกคนต่างเต็มใจและกระตือรือร้นที่จะมาร่วมงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากทุกวันในแต่ละทุกพื้นที่ทุกชุมชนต่างๆทั่วเมืองชาวบ้านได้พร้อมใจกันซ้อมรำถวายสักการะแด่เจ้าพ่อพญาแลมาอย่างต่อเนื่องมานานนับเดือน ใครผ่านไปมาก็จะต้องพบเห็นภาพมีประชาชนรวมตัวออกมาซ้อมรำกันจำนวนมากในช่วงเย็นของทุกวันในแต่ละชุมชน เพื่อที่จะให้เกิดความสวยงามพร้อมเพรียงกัน ถือเป็นการออกมาบันทึกประวัติศาสตร์การร่วมแรงร่วมใจกันของชาวชัยภูมิทุกหมู่เหล่าครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้งเมืองชัยภูมิมาในครั้งนี้อีกด้วย
และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสานสร้างความรักความสามัคคีของชาวชัยภูมิทุกหมู่เหล่า และเกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมทั้งเด็กเยาวชน กลุ่มนักเรียน นักศึกษา อย่างน่าภาคภูมิใจและจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เมืองชัยภูมิ อีกครั้งหนึ่ง ที่จะเป็นภาพความทรงจำที่ดีให้กับลูกหลานชาวชัยภูมิได้อย่างน่าภาคภูมิใจต่อไป
รวมทั้งยังจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงงานประเพณีบุญเดือนหก และเทศกาลสงกรานต์ ปีนี้ที่จะทำให้จังหวัดชัยภูมิ มีสันสันด้านการช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแบบวิถีไทยได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วยโดยเฉพาะการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการรวมทั้งศาสตร์และศิลปะ ที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของชาวจังหวัดชัยภูมิ ในหลาย ๆ ด้านจากทุกภาคส่วน ทั้งศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลง การบันทึกเสียง จัดทำดนตรี คิดท่ารำต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วมาจากฝีมือของลูกหลานเจ้าพ่อพญาแลชาวชัยภูมิ ที่ครั้งนี้พร้อมใจกันทำเพื่อถวายสักการะแด่เจ้าพ่อพญาแล อันเป็นที่เคารพและศรัทธายิ่งของชาวชัยภูมิทุกหมู่เหล่ามายาวนานนับ 200 ปีในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งตามประวัติเดิมที่ถึงแม้“เจ้าพ่อพญาแล เดิมเป็นคนเวียงจันทน์ ชื่อ ท้าวแล รับราชการอยู่ในวังทำหน้าที่เป็นพระพี่เลี้ยง ราชบุตรของเจ้าอนุวงศ์ราว ปี ๒๓๖๐ ไม่ปรากฏเหตุใด ท้าวแลออกจากราชสำนัก อพยพครอบครัวและสมัครพรรคพวกจำนวนมาก ข้ามโขงเดินทางพำนักเมืองหนองบัวลำภู จากนั้นหาที่ใหม่ได้ต่อมาที่บ้านน้ำขุ่น หนองอีจาน ลำตะคลอง บ้านชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ท้าวแลเป็นผู้มีความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริต และมีบุคลิกพิเศษกว่าคนอื่นๆ จึงได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าปกครองแบบพี่น้อง และได้รวบรวมเครื่องบรรณาการไปถวายเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ ท่านเห็นความดีความชอบจึงโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็น “ขุนภักดีชุมพล” ปี ๒๓๖๕ ท่านอพยพตั้งถิ่นฐานใหม่อยู่ระหว่างหนองปลาเฒ่ากับหนองหลอด มีน้ำอุดมสมบูรณ์ เหมาะที่จะตั้งเมืองใหญ่ ให้ชื่อว่าบ้านหลวง ต่อ มาขุนภักดีชุมพล ส่งส่วยทูลเกล้าให้ทางกรุงเทพฯ ถวายในรัชกาลที่ ๓ แทนที่จะส่งไปทางเวียงจันทน์ เพราะเห็นว่าเวียงจันทน์ก็เป็นประเทศราชประเทศสยามตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๓ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกบ้านหลวงขึ้นเป็น เมืองชัยภูมิ ตั้งให้ขุนภักดีชุมพล เป็นพระยาภักดีชุมพล(แล) เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก” ที่มีการระบุในจารึกไว้ใต้ฐานของอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ที่ตั้งอยู่ย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ มาจนปัจจุบัน ว่า “พระยาภักดีชุมพล ( แล ) เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก พ.ศ.2360-2369 เป็นผู้สื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ได้สร้างเมืองชัยภูมิ”
และในปีนี้ชาวชัยภูมิจึงถือว่าเป็นปีที่ครบ 200 ปี ของเจ้าเมืองคนแรก หรือเจ้าพ่อพญาแล หรือพระยาภักดีชุมพล เป็นผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิคนแรกมาจนปัจจุบัน ครบ 200 ปี จึงร่วมใจกันจัดพิธีรำถวายสักการะแด่เจ้าพ่อพญาแล ในปีนี้ขึ้นหรือเรียกว่า งาน”รำลึก 200 ปี ผู้กล้าพญาแล”ครั้งนี้ขึ้นและถือเป็นการร่วมแรงร่วมใจของชาวชัยภูมิทุกหมู่เหล่าเป็นจำนวนมากอีกครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 200 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นอีกประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำและบันทึกไว้อีกครั้งสำคัญในรอบ 200 ปี เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ
