นครพนม – วันที่ 1 กันยายน 2562 เวลา 02.30 น. พ.ต.ท.สังเวียน ศรียศ สารวัตรสอบสวน สภ.นาแก จ.นครพนม รับแจ้งเกิดเพลิงไหม้บ้านในหมู่บ้านคำเม็ก หมู่ 3 ต.หนองสังข์ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลนาแก ร่วมกับเจ้าหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อบต.หนองสังข์ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบควบคุมเหตุ ที่เกิดเหตุอยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 3 ลักษณะเป็นบ้านไม้ยกสูงสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ไฟกำลังโหมลุกไหม้ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันระดมรถน้ำดับเพลิงฉีดน้ำควบคุมเหตุ ซึ่งมีชาวบ้านแจ้งว่ามีคนติดภายในบ้านด้วย จึงฉีดน้ำ ควบคุมเพลิงป้องกันการลุกลาม ใช้เวลานานกว่า 30 นา ที จึงสามารถควบคุมเพลิง ได้ และรีบเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนอนหมดสติติดอยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง และได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกไฟคลอก สภาพสวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก ทราบต่อมาว่าชื่อ นายขุนทึง หนึ่งคำมี อายุ 48 ปี เป็นเจ้าของบ้าน และอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีญาติและชาวบ้านละแวกใกล้เคียงให้การว่า นายขุนทึงผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีพฤติกรรมติดสุรา และเสพยาเสพติดมานาน จนมีอาการเพี้ยนคลุ้มคลั่งบ่อยครั้ง หลังเสพยาก็จะโวยวายด่าทอเพื่อนบ้าน เคยนำตัวไปบำบัดแต่กลับมาก็เสพยาอีก จึงเป็นที่เอือมระอาของหมู่ญาติ
คืนวันเกิดเหตุขณะที่ชาวบ้านกำลังนอนหลับพักผ่อน มีคนร้องเอะอะตะโกนร้องว่าไฟไหม้ๆ พบเปลวเพลิงโหมลุกไหม้ขึ้นภายในบ้านของนายขุนทึง และลุกลามอย่างรวดเร็ว จนชาวบ้าน เข้าไปช่วยกันดับไฟแต่ไม่ทัน จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว และเชื่อว่าเจ้าของบ้านเกิดคลุ้มคลั่ง และจุดไฟเผาบ้านตัวเอง จากอาการเมาสติแตก ซึ่งเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อนแล้ว โดยนายขุนทึง เจ้าของบ้าน พยายามจุดไฟเผาหลายครั้ง แต่ชาวบ้านดับช่วยกันดับทัน แต่ครั้งนี้ก่อเหตุช่วงกลางดึกทำให้ ไม่สามารถควบคุมได้ทัน เพราะนายขุนทึง อาศัยอยู่คนเดียว กระทั่งไฟลุกท่วมบ้านทั้งหลัง นอกจากนี้ยังคลอกตัวเองได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเหตุได้ทัน ซึ่งทางตำรวจจะได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดี หากพบพยานหลักฐานยืนยัน เป็นการก่อเหตุวางเพลิงเผาบ้านตัวเอง จะได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนางบัญชี นามเกตุ อายุ 54 ปี พี่สาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายขุนทึง เป็นน้องชายคนสุดท้อง จากพี่น้องรวม 6 คน ยังไม่มีครอบครัว เมื่อ 2 -3 ปี ที่ผ่านมา ประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ จนพิการเดินไปมาไม่ได้ ภายหลังได้รับการกายภาพบำบัดจนกลับช่วยเหลือตัวเองได้ แต่มีพฤติกรรมชอบดื่มสุราและเสพยาเสพติด มีอาการคลุ่มคลั่ง โวยวาย เดินขากระเผลกด่าชาวบ้านเป็นประจำ ทางพี่น้องพยายามนำไปตรวจรักษาทั้งบำบัดฟื้นฟูที่โรงพยาบาลจิตเวชฯ นครพนม สุดท้าย กลับมาดื่มเหล้าเสพยาเหมือนเดิม
ข่าวน่าสนใจ:
- เครื่องบินตกครบ 3 เดือนกับความกระจ่างที่ยังไม่ปรากฏ คนพื้นที่ยังหวาดหวั่นคาใจ
- ชัยภูมิฮือฮาจัดแข่งกีฬาสีโรงเรียนนำช้างโชว์ความแสนรู้เตะฟุตบอล!
- นครพนม : นักวิ่งกว่า 3,000 คน ร่วมการแข่งขัน ‘นครพนม-คำม่วน มาราธอน ซีซั่น 6’ เชื่อมสัมพันธ์สองฝั่งโขง ชมสวยที่สุดที่นครพนม
- ททท.แถลงข่าวกิจกรรม Event Marketing ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา “แข่งขันวิ่งเทรลไตรบูรพาซีรีย์ 4 สนาม 3 จังหวัดภาคตะวันออก
นับวันอาการของน้องชายเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการเอาเสื้อผ้ามากองไว้แล้วจุดไฟเผา พอมีญาติมาห้ามก็จะไปเผาบ้านแทน ทำให้พ่อแม่พี่น้องที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ต้องย้ายไปอยู่กับญาติเพราะเกรงว่าจะทำร้าย ปล่อยให้นายขุนทึง อยู่คนเดียวตามลำพัง จนกระทั่งครั้งนี้ เกิดคลุ้มคลั่งเผาบ้านตัวเองและถูกไฟคลอก แต่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทัน หลังจากนี้หากนายขุนทึง ได้รักษาตัวจากการถูกไฟคลอกจนปลอดภัย ทางครอบครัวก็หมดความสามารถในการดูแล คงต้องปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: