29 ปี ปืนปัง ดั่งลั่นป่า ห้วยขาแข้ง
แทบจะเป็นดั่งงานคืนสู่เหย้า สำหรับคนที่รักธรรมชาติไปเสียแล้ว สำหรับงานรำลึกถึงวันสืบนาคะเสถียร ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเที่ยวป่า คนขับรถเที่ยวป่า นักศึกษากิจกรรมชมรมอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวที่นิยมตั้งแคมป์ในแหล่งธรรมชาติ พ่อแม่ที่อยากสอนให้ลูกรู้จักธรรมชาติ ฯลฯ คนเหล่านี้แทบจะเป็นขาประจำของงานวันรำลึกวันสืบนาคะเสถียร เพียงมีจุดเชื่อมเดียวกันคือการมีความรักในธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร ขอเพียงให้เริ่มต้นด้วยความรักธรรมชาติก็เพียงพอที่จะมาร่วมงานแล้ว อีกกลุ่มคือกลุ่มหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและกลุ่มนักวิชาการต่างๆในด้านอนุรักษ์ วันที่ 31 สิงหาคมและ 1 กันยายน พื้นที่ของย่านที่ทำการเขตรักษาพันธุสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จึงคราคล่ำไปด้วยผู้คนและรถยนต์ที่แล่นเข้าออกอย่างขวักไขว่ เต็นท์พักแรมถูกกางเรียงรายเต็มสนามหญ้า ซึ่งโดยปกติจะไม่อนุญาตให้เข้ามาพักแรมเพราะตอนกลางคืนจะมีสัตว์ป่าออกมาหากินทั่วทั้งบริเวณ แต่ในงานรำลึก จะอนุญาตถือเป็นกรณีพิเศษ
งานในแต่ละปีแทบจะเหมือนกันคือในช่วงกลางวันมักจะมีการเสวนาถึงการช่วยกันดูแลป้องกันของอาสาสมัคร เครือข่าย สารพัดอย่าง มีการมาแลกเปลี่ยนให้มุมมองของคนในแวดวง หรือเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิสืบ หรือกิจกรรมทางด้านอนุรักษ์ต่างๆ อาจจะมีดนตรีอะคูสติกเล่นเบาๆ ช่วงหัวค่ำอาจจะมีนักวิชาการหรือผู้ใหญ่ในสายอนุรักษ์มาพูดปลุกปลอบเล่าความเป็นมาหรือพูดถึงงานด้านอนุรักษ์หรือผืนป่ามรดกโลกทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง แล้วก็จะมีการไปจุดเทียนรำลึกรอบอนุสาวรีย์สืบนาคะเสถียร ซึ่งในปีนี้มีการจัดการแสดงเป็นเรื่องราวเล็กๆบอกเล่าเหตุการณ์การก่อนการอัตวิบาตกรรมของหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยขาแข้งที่ชื่อสืบ นาคะเสถียรด้วย พอจุดเทียนรำลึกจบก็แยกย้ายกันกลับที่พัก เป็นอันจบพิธีในวันแรก
การจุดเทียนรำลึก
ซึ่งปีนี้มีพิเศษกว่าทุกปี เพราะเป็นวันจัดงานที่ตรงกับเสาร์-ทิตย์จึงมีผู้คนเข้ามาร่วมงานมาก จึงมีการจัดฐานการเรียนรู้ทางธรรมชาติหลายฐานแล้วแต่ความสนใจ ซึ่งเป็นที่ถูกใจของเด็กๆและผู้ปกครองที่พามาร่วมงานมาก
ส่วนวันรุ่งขึ้นวันที่ 1 กันยายน ช่วงเช้าจะมีการตักบาตรทำบุญ สายๆก็จะมีการวางหรีดรำลึก ซึ่งปีนี้(พ.ศ. 2562)ได้รับเกียรติจากนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเป็นประธานในพิธี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น ว่าที่ปลัดกระทรวง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานฯ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา และอีกหลายท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงาน หลังจากวางพวงหรีดรำลึกก็มีการให้ทุนการศึกษาแต่บุตรหลานเจเหน้าที่และประชาชนรอบแนวเขตที่คัดเลือกมาแล้ว เป็นอันจบงานแล้วก็ต่างคนต่างแยกย้ายเดินทางกลับ
โดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ทุกปี แต่ปีนี้มีพิเศษกว่าทุกปี เพราะเป็นวันจัดงานที่ตรงกับเสาร์-อาทิตย์จึงมีผู้คนเข้ามาร่วมงานมาก จึงมีการจัดฐานการเรียนรู้ทางธรรมชาติหลายฐานแล้วแต่ความสนใจ ซึ่งเป็นที่ถูกใจของเด็กๆและผู้ปกครองที่พามาร่วมงานมากด้วย
ถ้าเรามองแต่ตัวเนื้องาน ก็จะเห็นว่าไม่มีอะไรมาก งานออกจะพื้นๆ แต่ทำไมคนถึงมาร่วมงานมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เรียกว่าเป็นแฟนประจำดั่งที่เอ่ยมาข้างต้น ปีนี้มีผู้ปกครองที่มาเด็กมาร่วมกิจกรรมกันค่อนข่างมาก การให้เด็กๆ ได้มาเปลือยเท้าวิ่งเล่นในสนามหญ้าธรรมชาติ สูดอากาศที่บริสุทธิ์ เล่นน้ำในลำธาร ฟังเสียงจั้กจั่นและแมลงกลางคืนฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมและทำให้เด็กๆซึมซับธรรมชาติ ปลูกฝังความรักป่า รักสัตว์ป่ารักธรรมชาติให้อยู่ในใจเขา เสียงเด็กถามพ่อแม่ว่าจุดเทียนทำไม จุดให้ใคร แล้วพ่อแม่เป็นคนเล่าเรื่องราวให้ฟังนั้น เป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากในงานวันสืบนาคะเสถียร เรื่องราวของผู้ที่เสียสละอย่างใหญ่หลวงเพื่อพิทักษ์ผืนป่าไทย กำลังถูกบอกเล่าไปสู่รุ่นต่อๆไปแล้ว
การที่คนๆหนึ่งได้เสียสละชีวิต เพื่อปุกสังคมมาให้ความสำคัญกับการรักษาป่า รักษาพื้นที่ธรรมชาติเมื่อวันที่ 1 กันยายน 29 ปีก่อนนั้นไม่สูญเปล่า เพราะวันนี้ผู้คนตื่นตัวกับเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างมาก แม้จะมีการเอาเปรียบบุกรุกป่า ยังมีการล่าสัตว์ป่า ยังมีการทำลายธรรมชาติ แต่ผู้คนทุกภาคส่วนในสังคมก็พร้อมเป็นหูเป็นตาและช่วยกันแจ้งข่าว ไม่ว่าจะมีการกระทำความผิดในส่วนใหญ่ของประเทศ จะถูกลากออกมาสู่สาธารณะให้สังคมช่วยตัดสินและเร่งเร้าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกไปดำเนินการ ผืนป่าหลายแห่งได้รับการดูแลอย่างดีไม่เฉพาะห้วยขาแห้งและทุ่งใหญ่ฯเท่านั้น
เสียงปืนเพียงนัดเดียวจากบ้านพักหัวหน้าเขตฯริมลำห้วยทับเสลาเมื่อ 29 ปีก่อน ยังคงดังลั่นมาจนถึงปัจจุบัน…..
……………………………….
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: