ข้าวหลาม กลุ่มผลิตข้าวหลามตำบลนาข้าวเสีย ยอมเฉือนเนื้อตัวเองลดกำไรลง ผลิตข้าวหลามในสถานการณ์ข้าวสารเหนียวแพง ยังไงก็ยังดีกว่ากรีดยางพารา 3 กิโล 100 จึงยึดอาชีพผลิตข้าวหลาม ปัจจุบันเป็นที่รู้จักของลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำ
ข้าวหลาม : แม้ราคาข้าวสารเหนียวขยับตัวปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกลุ่มทำข้าวหลามตำบลนาข้าวเสีย จากที่เคยซื้อราคาข้าวสารเหนียวกิโลกรัมละ 30 บาท พุ่งขึ้นเกือบ 50 บาท ทำให้รายได้ของกลุ่มที่ยึดอาชีพทำข้าวหลามเพียงอย่างเดียวหดหายไม่พอเลี้ยงครอบครัวเพราะต้องใช้ต้นทุนสูงมาก จากราคาข้าวสารเหนียวราคาแพงขึ้น
นอกจากนั้น การที่ราคาข้าวสารเหนียวขยับตัวปรับราคาสูงขึ้นและคาดว่ามีโอกาสที่จะขาดตลาดในไม่ช้านั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มสตรีที่ยึดอาชีพการทำข้าวหลามขายเลี้ยงชีพ ซึ่งหลายครอบครัวได้ยึดอาชีพการทำข้าวหลามขายมานาน
ตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่ต้องมาประสบปัญหาวัตถุดิบในการประกอบอาชีพขยับปรับราคาสูงขึ้นจนปรับตัวไม่ทัน อย่างเช่น กลุ่มสตรีทำข้าวหลามนาข้าวเสีย หมู่ที่ 10 ตำบลนาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากมีสมาชิกจำนวน 5 คนที่รวมกลุ่มกันทำข้าวหลามขายเพียงอย่างเดียว ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มไม่มีใครทำอาชีพสวนยางพาราเหมือนคนอื่นๆ ซึ่งอาชีพผลิตข้าวหลามเป็นรายได้หลักในการหาเลี้ยงครอบครัว
นางลั่น ขำเนี่ยว อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204/1 หมู่ที่ 10 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ประธานกลุ่มสตรีทำข้าวหลามนาข้าวเสีย กล่าวว่า ตนเองได้ยึดอาชีพขายข้าวหลามมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ ทำมาร่วม 30 ปีกว่าปี ตั้งแต่ข้าวสารเหนียวราคากิโลกรัมละ 7 บาท จนราคาปรับตัวสูงขึ้นเป็น 30 บาท
ก็ถือว่าการทำข้าวหลามขายยังพอมีกำไรที่ค่อนข้างดี ต่อมามีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างอาชีพให้คนในชุมชน หลายคนสนใจที่จะเข้ามาประกอบอาชีพด้านการทำข้าวหลามตนจึงตั้งกลุ่มสตรีทำข้าวหลามนาข้าวเสียขึ้นมามีสมาชิกทั้งหมด 5 คน ตั้งมาประมาณ 1 ปีกว่า ซึ่งการทำข้าวหลามจะทำวันเว้นวัน วันธรรมดาใช้ข้าวเหนียว 10-15 กิโลกรัม ถ้าในช่วงเทศกาลจะเพิ่มขึ้นจำนวนเท่าตัว รายได้ของกลุ่มหักต้นทุนแล้วจะแบ่งกำไรที่เหลือจ่ายเป็นรายวันให้กับสมาชิกในกลุ่ม
ตั้งแต่ราคาข้าวสารเหนียวขยับปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงองค์ประกอบอื่นอย่างไม่ไผ่ กะทิที่ปรับตัวขึ้นสูงตามไปด้วย ทำให้ต้องใช้ตนทุนมากในการทำข้าวหลามแต่ละครั้ง ซึ่งมีแนวโน้มว่าราคาข้าวสารเหนียวจะพุ่งขึ้นกิโลกรัมละ 50 บาท และจะมีโอกาสขาดตลาดอีกด้วย
ทุกวันนี้การจำหน่ายข้าวหลามยังคงขายราคาเท่าเดิมยังไม่ปรับราคาแต่อย่างใดถึงแม่ว่าอยากจะปรับราคาขึ้นแต่ลูกค้าขอให้ขายในราคาเท่าเดิม เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ถึงแม้จะไม่ปรับราคาแต่ลูกค้าต่อรองให้ลดให้อยู่ดี
ตนมองว่าถ้าปรับราคาสูงขึ้นหากลูกค้าขอแถมฟรีเมื่อมาคำนวณดูแล้วก็เท่ากับว่าขายราคาเท่าเดิมอยู่ดี ไม่ได้แตกต่างแต่อย่างใด หากราคาข้าวสารเหนียวพุ่งสูงขึ้นแบบนี้ทำให้คนที่มีอาชีพขายข้าวหลามอยู่ลำบาก และส่วนตัวของตนไม่มีอาชีพอะไรรองรับ ประกอบอาชีพอื่นไม่เป็นทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก
