หนองคาย – ศุลกากรหนองคาย รวบหญิงลาว ลักลอบขนทองคำแท่งบริสุทธิ์ 98 เปอร์เซ็นต์ 6 แท่ง มูลค่ารวมภาษีกว่า 10 ล้านบาท เข้าประเทศ คาดเตรียมนำขายในไทย
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 6 ก.ย.62 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว ฝั่งขาเข้าประเทศ อ.เมืองหนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร และตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนางอ่อนสี พงสะหวัน อายุ 77 ปี ชาวนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว พร้อมของกลาง ทองคำแท่งพันด้วยเทปกาวสีดำ จำนวน 6 แท่ง น้ำหนักแท่งละ 1 ก.ก. มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท หากรวมภาษีจะมีมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท
ข่าวน่าสนใจ:
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- บุกพิสูจน์ หลังชาวบ้าน พบเสือ หนุ่ม 27 ถ่ายคลิปเสือขณะกรีดยาง
- สุด! ใช้เกาะพิพาทไทย เมียนมาขนยาบ้าหวิดแสน และไอซ์ ไม่รอดมือทหารราชมนู
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบรถยนต์ที่เข้าออกประเทศตามปกติ ได้มีรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน นบ 6668 กำแพงนคร ขับเข้ามาในประเทศ คนขับเป็นชาย และมีนางอ่อนสี นั่งหน้าคู่คนขับ และมีเด็กมาด้วยหนึ่งคน เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ นางอ่อนสี ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตรวจพบกระเป๋าสะพายสตรีสีดำ วางอยู่ใต้เบาะหน้าข้างคนขับ เปิดออกดูพบว่าเป็นทองคำแท่ง โดยใช้เทปกาวสีดำพันเทปไว้ จำนวน 6 แท่ง เปอร์เซ็นต์ทองประมาณ 98 เปอร์เซ็นต์ จึงได้ควบคุมตัวไว้สอบสวน
เบื้องต้น นางอ่อนสี อ้างว่าจะพาหลานไปหาหมอที่ จ.อุดรธานี แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่านางอ่อนสี มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำทองคำแท่งเข้ามาในประเทศไทย เพื่อนำมาขายในตลาดมืดในพื้นที่ของจังหวัดอุดรธานี หลังจากถูกจับกุมนางอ่อนสี ยินยอมระงับคดีในชั้นศุลกากร ด้วยการมอบทองคำให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งทางศุลกากรจะส่งทองไปพิสูจน์เนื้อทองที่กรมศุลกากร และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
นายนิมิต แสงอำไพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ด่านศุลกากรหนองคายจับกุมผู้ลักลอบนำทองคำแท่งเข้ามาในประเทศ โดยเป็นคนละกลุ่มกับที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ เนื่องจากขณะนี้ค่าเงินกีบของลาวอ่อนค่า จึงมีการนำทองคำมาขายในไทยทำให้ได้ราคาดีกว่า ซึ่งจะได้ 5-7 เปอร์เซ็นต์ของราคาขายในไทย คาดว่ายังมีขบวนเหล่านี้หลงเหลือที่เจ้าหน้าที่ต้องติดตามดูพฤติกรรมต่อไป โดยกลุ่มค้าเงิน กลุ่มค้าทอง เหล่านี้เป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนกลุ่มยาเสพติด และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ก็ยังต้องเฝ้าระวังเช่นกัน.
……………………….
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: