เพชรบูรณ์- อุบัติเหตุสงกรานต์ 4 วันยอดเสียชีวิตพุ่ง 11 รายทุบสถิติ 3 ปีย้อนหลังเรียบร้อยแล้ว ผู้ว่าฯจี้ทุกภาคส่วนให้เพิ่มความเข้มมาตรการลดอุบัติเหตุ หวังหยุดการไหลของตัวเลขเจ็บตาย
วันที่ 15 เมษายน 2561 ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2561 รายงานสรุปอุบัติเหตุยอดสะสมวันที่ 11-14 เมษายน 2561 ว่า ตลอดห้วง 4 วันที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุจำนวน 45 ครั้ง ทำให้ผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 11 รายทุกรายเป็นผู้ชายทั้งสิ้น และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 43 ราย แยกเป็นชาย 29 ราย หญิง 14 ราย และเมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิต 3 ปี ย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2558-2560 พบว่าค่าเฉลี่ยเสียชีวิต 7 ราย จึงส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตในห้วงสงกรานต์ 7 วันอันตรายทะลุสถิติ 3 ปีย้อนหลังไปเรียบแล้ว โดยสูงกว่าถึง 4 รายในขณะที่ยังเหลือระยะห้วงเวลาการลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์จังหวัดเพชรบูรณ์อีก 3 วัน (11-17 เม.ย.2561)
อย่างไรก็ตามจากยอดผู้เสียชีวิตที่สูงขึ้นทำให้ นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 5 เมษายน 2561 ไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกแห่ง เพื่อให้เร่งดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน โดยมีเป้าหมายลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวนการเกิดอุบัติเหตุไม่มากกว่า 34 ครั้ง ผู้บาดเจ็บไม่มากกว่า 37 ราย ผู้เสียชีวิตไม่มากกว่า 7 ราย ส่วนผลการดำเนินงาน 4 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่ายอดการเกิดอุบัติเหตุ,ผู้บาดเจ็บ,ผู้เสียชีวิตสูงกว่าเป้าหมายกำหนด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและลดการสูญเสีย จึงสั่งการให้
1.เน้นบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเน้นพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด, ดื่มแล้วขับ,,ไม่สวมหมวกนิรภัย เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของจังหวัดเพชรบูรณ์
2.เพื่อความเข้มข้นในการจัดตั้งด่านชุมชน, ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่, โดนเน้นการบูรณาการเชิงรุก เข้าไปแนะนำหัวหน้าครองครัวให้ปฏิบัติตามกติกาชุมชน, และการตักเตือนกลุ่มผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ
3.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก ในการเดินทางกลับของประชาชน โดยปรับเปลี่ยนจุดตรวจ จุดบริการของถนนสายหลัก สายรอง ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การเดินทางของประชาชน
4.ให้ทุกอำเภอบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรการกุศล ภาคเอกชนให้ติดตั้งไฟส่องสว่างในพื้นที่จุดตัด จุดกลับรถ หรือเปิดไฟวาบเพื่อให้ผู้ใช้รถมีความตื่นตัว
5.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมการช่วยเหลือผุ้ประสบเหตุทั้งบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย ให้พร้อมปฏิบัติงาน
