สกลนคร-ปิดศูนย์ฯ สรุปยอดผู้เสียชีวิต 7 วันอันตราย อุบัติเหตุ 52 ครั้ง บาดเจ็บ 49 คน เสียชีวิต 12 ราย ลดลงจากสงกรานต์ที่แล้ว 1 ราย อยู่อันดับ 4 ของประเทศ สาเหตุหลัก เมาแล้วขับ อันดับหนึ่งโคราช 20 ราย
เวลา 11.00 น. วันที่ 18 เม.ย.2561 ที่ห้องภูริทัตโต ศาลากลางจังหวัดสกลนคร นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานสรุปผลการดำเนินงานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสกลนคร(ศปถ.จ.สน.) ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.2561 จังหวัดสกลนครตั้งจุดตรวจหลัก 43 จุด จุดตรวจรอง 195 จุด ด่านชุมชน 774 จุด มีผู้ปฏิบัติงาน 1,570 คน จำนวนอุบัติเหตุ 52 ครั้ง บาดเจ็บ 49 คน เสียชีวิต 12 ราย ลดลงจากสงกรานต์ที่แล้ว 1 ราย อยู่อันดับ 4 ของประเทศ สาเหตุหลัก เมาแล้วขับ
สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุยังคงเป็น เมาแล้วขับ รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด และตัดหน้ากระชั้นชิด รถจักรยานยนต์ยังครองแชมป์ รถปิคอัพและรถเก๋งตามลำดับ พฤติกรรมเสี่ยงไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัด ขับเร็ว หลับใน ตัดหน้า นั่งท้ายกระบะ ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร ฯ
ข้อสั่งการในที่ประชุมส่วนกลางโดย พล.ท.ธเนศ กาลพฤกษ์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ให้จังหวัด/อำเภอ ถอดบทเรียนผลการดำเนินงาน ตกผลึกเพื่อหาแนวทางป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อย่างเข้มข้น และต่อเนื่องต่อไป พร้อมกับการรณรงค์อย่างจริงจัง ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงความสำคัญ การเคารพกฎและรักษาวินัยจราจร
นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า จังหวัดสกลนครขอแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบอุบัติเหตุ ครอบครัว และผู้เสียชีวิตทุกราย ไม่มีใครต้องการให้เกิดอุบัติเหตุอันนำไปสู่การสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความโศกเศร้าเสียใจต่อญาติ ครอบครัว รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกๆปีเราทำงานกันอย่างเต็มที่ เพิ่มมาตรการใหม่ๆ และทำงานกันแบบ 24 ชม. สับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอย่างจำกัด
ปีนี้เราเพิ่มด่านตรวจมากกว่าปีที่แล้วเท่าตัว คือมากกว่า 1 พันด่าน เจ้าหน้าที่เรียกตรวจรถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุมากกว่า 120,000 คัน ตรวจจับเมาแล้วขับ 443 ราย ซึ่งคนจำนวนนี้ หากหลุดออกไปอาจเกิดอุบัติเหตุและสร้างความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง
การเสียชีวิต การเกิดอุบัติเหตุ ไม่สามารถคำนวณออกมาเป็นสูตรทางคณิตศาสตร์ได้ ทุกฝ่ายทำงานกันเต็มที่ และจะทำให้หนักขึ้นเพื่อประชาชน แม้จะลดอุบัติเหตุได้เพียงหนึ่งครั้ง หรือลดผู้เสียชีวิตลงหนึ่งราย ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
