เดือดร้อนหนักค้ำประกันซื้อรถให้หลานเขยแต่พอเลิกกับหลานสาวไม่ยอมจ่ายค่างวด ไฟแนนซ์ตามยึดบ้านเดือดร้อนหนัก
วันที่ 24 ก.ย.62 นายคมสันต์ สุผาครอง อายุ 39 ปี ชาวบ้านป่ายางใหม่ หมู่ 4 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย อาชีพครูสอนหนังสือที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังจากที่ถูกสำนักงานบังคับคดี จ.เชียงราย ใช้อำนาจตามกฎหมายตามคดีหมายเลขดำที่ ผบ.102/2561 คดีหมายเลขแดงที่ ผบ.849/2561 เข้ายึดที่ดินตามโฉนด เลขที่ 19042 เลขที่ดิน 1639 หน้าสำรวจ 1281 ต.เวียงพางคำ เนื้อที่ประมาณ 23 ตารางวา เป็นทาวน์โฮมที่นายคมสันต์ อาศัยอยู่ หลังจากก่อนหน้านี้นายคมสันต์ได้ค้ำประกันในการซื้อรถยนต์ของอดีตหลานชาย โดยแจ้งให้ชำระหนี้ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ (หนังสือลงวันที่ 9 ก.ย.2562) ทำให้นายคมสันต์และครอบครัว เดือดร้อนอย่างหนัก เพราะที่ดินดังกล่าวเป็นที่บ้านที่ใช้อาศัยอยู่กับครอบครัว
นายคมสันต์ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2555 หลานสาวของตนไปแต่งงานกับชายคนหนึ่งปัจจุบันรับราชการเป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ขณะนั้นมีอาชีพค้าขายในตลาดและได้ไปเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า มาจำนวน 1 คัน จึงขอให้ตนและญาติค้ำประกันการเช่าซื้อให้ในราคารวม 853,424.04 บาท กำหนดชำระเดือนละ 10,871 บาท จำนวน 84 งวด ด้วยความเป็นญาติกันจึงยินยอมและต่อมาหลานเขยคนดังกล่าวก็สอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจบรรจุที่ จ.แม่ฮ่องสอน และได้เลิกรากับหลานสาวของตน โดยนำรถคันดังกล่าวไปด้วย ซึ่งได้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถ จำนวน 19 งวด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ชำระอีกเลยกระทั่งมีจดหมายทวงหนี้ไปที่ตนและญาติเมื่อตนติดต่อสอบถามไปที่อดีตหลานเขยก็บอกจะดำเนินการให้
จนถึงต้นปี 2561 ตนและญาติที่ค้ำประกันได้ถูกหมายเรียกจากศาลจังหวัดปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ให้ไปไกล่เกลี่ยหนี้คงค้างดังกล่าว ตนจำเป็นต้องว่าจ้างทนายและเสียเวลาเดินทางไปโดยไม่พบอดีตหลานเขยคนดังกล่าวอีกเลย จนราวเดือน พ.ค.2561 ศาลได้ตัดสินคดีให้ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้โจทย์จำนวน 309,422.00 บาท จนถูกสำนักงานบังคับคดีเข้ายึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งปัจจุบันตนและภรรยาเช่าซื้อกับทางธนาคารออมสินสาขาเชียงแสน จ.เชียงราย และใช้อาศัยอยู่กับตา พ่อแม่และลูกอีก 2 คน โดยตนประกอบอาชีพเป็นครูโรงเรียนเอกชนไม่มีรายมากมาย ลำพังค่าผ่อนชำระบ้าน ค่าเทอมลูก ค่าใช้จ่ายรายเดือนละอื่นๆ ก็แทบจะไม่เหลือ ที่ผ่านมาต้องนำเงินเก็บไปใช้เป็นค่าเดินทาง ที่พัก ว่าจ้างทนายความ ไปศาลจงหวัดปากพนังจำนวน 2 ครั้ง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักและขอให้อดีตหลานเขยออกมาชำระเงินตามที่ศาลและสำนักงานบังคับคดีแจ้งด้วย อย่างไรก็ตามได้เตรียมยืนหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชาของอดีตหลายเขตดังกล่าวแล้ว
ข่าวโดย : ณัฐวัตร ลาพิงค์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: