สระแก้ว – น้ำป่าจากคลองพระปรงล้นตลิ่งสูง 2-3 เมตร จ่อทะลักเข้าท่วมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ต.โคกปี่ฆ้อง เมืองสระแก้ว ต้องระดมทหาร ตำรวจ จิตอาสา ช่วยเสริมกระสอบทราย ส่วนนาข้าวถูกน้ำท่วมมิดหัว ชาวนาหลั่งน้ำตาครวญปีนี้ไม่ได้ข้าวกินแน่นอน ด้านบริษัทยันเตรียมช่วยเหลือหลังน้ำลด
เมื่อวันที่ 26 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว ตั้งแต่วานนี้ ปรากฏว่าล่าสุดวันนี้ ระดับน้ำได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้นเนื่องจากพื้นที่รับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีและ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ระบายน้ำได้ช้า ส่งผลให้พื้นที่บ้านด่าน ม.6 ต.โคกปี่ฆ้อง มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่นาข้าว ไร่อ้อย และสวนปาล์มของชาวบ้านที่อยู่ติดกับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีคันสปริงเวย์ล้อมรอบและล้นคันกั้นน้ำที่มีความสูงประมาณ 2-3 เมตรตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สระแก้ว ได้ร้องขอให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ปภ.สระแก้ว, ทหารจากกรมทหารราบที่่ 12 รักษาพระองค์, มณฑลทหารบกที่ 19, ตำรวจจาก สภ.เมืองสระแก้ว และจิตอาสาพระราชทาน เข้าช่วยนำกระสอบทรายกั้นแนวป้องกันน้ำที่เอ่อล้นสปริงเวย์ที่บริเวณด้านข้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บ้านโคกปี่ฆ้อง ซึ่งอยู่ห่างจาก อบต.โคกปี่ฆ้อง เพียง 200 ม. ในพื้นที่ ม.6 เชื่อมต่อ ม.7 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว เพื่อไม่ให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมภายในพื้นที่โรงไฟฟ้าฯดังกล่าว ซึ่งมีระดับน้ำที่ท่วมสูงกับพื้นที่โรงไฟฟ้าต่างกัน 2-3 เมตร
นางประทิน ด่านแก้ว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 ม.6 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว กล่าวทั้งน้ำตาว่า นาข้าวของตนเอง 11 ไร่ บ่อปลา 1 บ่อ ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งเมื่อวานน้ำยังท่วมแค่ปลายต้นข้าว แต่ตอนนี้ท่วมมิดหัวคนเลยเพิ่งได้เข้ามาดูตกใจหมดเลย น่าจะไม่เหลืออะไรแน่ ปีที่แล้วก็ท่วมเช่นกัน แต่ก็ไม่หนักมาก ยังพอได้ข้าวไว้กินประมาณ 30 กว่าถัง แต่ปีนี้คงไม่ได้เลย ข้าวยิ่งแพงไม่รู้จะทำอย่างไร อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโรงไฟฟ้าฯ ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนด้วย เพราะพื้นที่รับน้ำตรงนี้ทั้งนาข้าว ไร่อ้อยและสวนปาล์ม มีเนื้อที่ประมาณ 200 กว่าไร่ที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด
ด้านนายมนต์ชัย วรชุน ผู้จัดการและผู้บริหารโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในนาม บริษัทมนต์ชัยเซอร์วิส 2018 จำกัด กล่าวว่า เป็นนโยบายของบริษัทที่จะเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งการช่วยเหลือจะเป็นการเร่งฟื้นฟูให้เข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งเยียวยาเงินทอง ชดเชยในด้านข้าวเค้าเสียหายเดือดร้อน ทางบริษัทยินดีที่จะดูแล ซึ่งชาวบ้านที่ประสบปัญหารับน้ำในบริเวณนี้ ซึ่งข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้านมีประมาณ 110 หลังคาเรือนที่เดือดร้อน ปีนี้มวลน้ำมาเยอะมาก ทางบริษัทก็พยายามที่จะป้องกันไม่ให้น้ำทะลักคันสปริงเวย์เข้ามา เพราะน้ำระบายลงไปทางปราจีนบุรีได้ช้า ดังนั้นขอยืนยันว่า ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ หลังน้ำลดเราจะเรียกมาประเมินผลและประชุมเรื่องการเยียวยาตามความเหมาะสม ใครเดือดร้อนมาก เดือดร้อนน้อย พื้นที่กี่ไร่ ข้าวเสียหายเท่าไหร่ เรายินดีที่จะบูรณาการตามความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว สรุปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ จ.สระแก้ว ระหว่างวันที่ 19-25 ก.ย.62 ว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ 16 ตำบล 105 หมู่บ้าน 783 ครัวเรือน รวมประชาชนที่เดือดร้อน 2,673 คน ประกอบด้วย อ.โคกสูง น้ำหลากจากเขาและคลองยาง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ระดับน้ำประมาณ 50-80 ซม. กระทบ พื้นที่รวม 3 ตำบล 28 หมู่บ้าน 214 ครัวเรือน 942 คน , อ.อรัญประเทศ ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน ทำให้เกิดน้ำหลากจากเขาอีด่างและเทือกเขาพรมสุวรรณ เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ระดับน้ำประมาณ 40-70 ชม. รวม 8 ตำบล 54 หมู่บ้าน 344 ครัวเรือน 1,034 คน
ส่วนพื้นที่ อ.วัฒนานคร ปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน ทำให้เกิดน้ำไหลหลากล้นตลิ่งคลองพระปรง เข้าท่วมบริเวณที่ลุ่มต่ำริมคลองพระปรง ระดับ 60-90 ชม. รวม 3 ตำบล 12 หมู่บ้าน 127 ครัวเรือน 381 คน และพื้นที่ อ.เมืองสระแก้ว มีปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ทำให้เกิดน้ำไหลหลากล้นตลิ่งคลองพระปรงและคลองพระสะทึง เข้าท่วมบริเวณที่ลุ่มต่ำริมคลองระดับน้ำ ประมาณ 30-60 ชม. รวม 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน 105 ครัวเรือน 315 คน ทั้งนี้ ล่าสุด สถานการณ์ปัจจุบันยังต้องเฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.โคกปี่ฆ้อง เนื่องจากมวลน้ำจากคลองพระปรง อาจจะไหลมาเพิ่มเติมและเข้าท่วมหมู่บ้านชุมชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลอง ซึ่งได้กำชับให้ ปภ.อำเภอ ท้องถิ่น ท้องที่ ชลประทาน บูรณาการ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
——————————
