พระลูกวัดร้องเจ้าคณะอำเภอ ตรวจสอบ เจ้าอาวาสวัดดังและมีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าคณะตำบล มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แชทไลน์ข้อความคุกคามทางเพศกับพระและสามเณร ด้วยข้อความไม่เหมาะสม และยังขับไล่พระในเขตปกครองโดยไม่มีเหตุอันควร
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ก.ย.62 พระสุนทร สิริภัททชโย อายุ 38 ปี พระลูกวัดพรุดินนา ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียน ต่อพระศรีรัตนสุธี เจ้าคณะอำเภอลำทับ จ.กระบี่ กรณีเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอลำทับ และมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลด้วย มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พฤติกรรมแทะโลม และคุกคามทางเพศกับพระและสามเณร โดยมีหลักฐานการแชทข้อความผ่านทางโซเชียล เฟซบุ๊ก และไลน์ ด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม และละเมิดสิทธิ เด็กและเยาวชนอย่างร้ายแรง และชอบทะเลาะกับญาติโยม มีพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้วาจาหยาบคายกับชาวบ้าน นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรม กล่าวหาให้ร้าย พระที่อยู่ภายใต้การปกครอง ว่ามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่หลังจากจนท.ตรวจสอบแล้วก็ไม่เป็นความจริง จึงได้เข้ามาร้องเรียนให้เจ้าคณะอำเภอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าอาวาสดังกล่าว ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าคณะตำบลผู้ปกครอง มีชาวบ้านส่วนหนึ่งเคารพนับถือ แต่กลับปฏิบัติตนไม่เหมาะสม ตามสมณวิสัย เป็นที่เสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา เป็นเหตุนำมาซึ่งวิกฤติศรัทธา เป็นที่ติดเตียนของประชาชน
พระสุนทร กล่าวว่า สาเหตุที่นำหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อ เจ้าคณะอำเภอลำทับนั้น เนื่องจากตรวจสอบพบว่า เจ้าอาวาสดังกล่าว มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาตมามีหลักฐานเอกสาร และการแชทข้อความ ทางไลน์ ซึ่งมีการบันทึกไว้ทั้งหมด และที่สำคัญ เจ้าอาวาสดังกล่าว ใช้ตำแหน่งในฐานะเจ้าคณะตำบล ขับไล่ตน และพระสงฆ์ในเขตปกครองออกจากวัดในเขตปกครอง โดยไม่มีเหตุผลอันควร ซึ่งคาดว่า มาจากเรื่องที่ตนล่วงรู้ ข้อมูลพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ต่อสามเณรหลายรูปหลายประการ กลัวว่าเรื่องต่างๆ จะถูกเปิดเผย โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้กล่าวหา พระสมุอมรพล อตถพโล พระลูกวัดพรุดินนา ว่า มีพฤติกรรมเสพยาบ้า โดยบอกกับเจ้าอาวาสวัดพรุดินนา และ ผู้ใหญ่บ้าน ต่อมาทางเจ้าอาวาสวัดพรุดินนา และผู้ใหญ่บ้าน และจนท.นำตัวพระสมุอมร ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ที่รพ.คลองท่อม แต่ผลปรากฎว่าไม่พบสารเสพติดตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด นอกจากนี้เจ้าอาวาสดังกล่าว ยังมีพฤติกรรมไม่โปร่งใส ในการเบิกจากเงินของวัด การบริหารเงินงบประมาณ ค่าอาหารกลางวัน ค่าวัสดุ ค่าตอบแทนครูศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ของวัด เนื่องจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้ให้งบอุดหนุนแล้วแต่ยังเรียกเก็บจากผู้ปกครองอีก และมีพฤติกรรามคุกคามทางเพศพระและสามเณร นอกจากผิดพระธรรมวินัยแล้วยังทำผิดพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ด้วย ซึ่งได้แนบหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว จึงขอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว
ด้านพระศรีรัตนสุธี เจ้าคณะอำเภอลำทับ กล่าวว่า ตามที่มีการร้องเรียนมา หากเป็นความจริงถือว่าเป็นการกระทำผิดพระธรรมวินัย ในเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ และหลังจากนี้จะรายงานไปยังเจ้าคณะจังหวัด สำนักพระพุทธศาสนา เพื่อประชุมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
