เชียงราย-ชาวบ้านในตำบลแม่อ้อ อำเภอพาน รวมตัวกันกว่า 300 คน ให้กำลังใจแกนนำขณะเดินทางมาไกล่เกลี่ย ภายหลังจากถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายถึง 500 ล้านบาท
เวลา 09.30 น. วันนี้ (27 เม.ย.61) ที่บริเวณลานด้านหน้าศูนย์ไกล่เกลี่ย ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลจังหวัดเชียงราย ได้มีกลุ่มมวลชนชาวตำบลแม่อ้อ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จำนวนประมาณ 300 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจ นายจิรายุ เผ่ากา พร้อมกับพวก จำนวน 29 คน แกนนำม็อบคัดค้านการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงสุกร ของ บริษัท ที.วี. เอฟ ฟาร์มมิ่ง จำกัด ที่จะมาทำการก่อสร้างในพื้นที่ของตำบลแม่อ้อ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย และถูกแกนนำและกลุ่มชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย
ทำการคัดค้านจนไม่สามารถดำเนินการได้ ต่อมาบริษัทฯ ได้ทำการฟ้องร้องดำเนินคดีแกนนำจำนวน 29 คนในความผิดฐานละเมิด เรียกค่าเสียหายสูงถึง 500 ล้านบาท ต่อศาลจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 15 เดือนมกราคม พ.ศ. 2561 และศาลได้นัดคู่ความทั้ง 2 มาทำการไกล่เกลี่ยในวันนี้ ก่อนที่จะทำการสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 2 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย ได้เดินทางมาที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยตามนัด
ต่อมาในเวลา 10.00 น. นายถนอมศักดิ์ เสรีวิชยสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บ.ที.
วี.เอฟ ฟาร์มมิ่ง จำกัด โจทก์ พร้อมทีมทนายความ และคณะ ได้เดินทางเข้ามาเจราไกล่เกลี่ยกับกลุ่มของนายจิรายุ จำนวน 28 คน ซึ่งจำเลยอีกหนึ่งคนได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยคณะผู้ไกล่เกลี่ย ขอร้องให้กลุ่มชาวบ้านที่มาให้กำลังใจพร้อมทั้งสื่อมวลชน ให้รออยู่ด้านนอก บรรยากาศการเจรจาเป็นไปอย่างเคร่งเครียด จนกระทั่งเวลา 12.00 น. จึงได้ข้อยุติเบื้องต้นว่า ทางบริษัทฯ มีความประสงค์ที่จะดำเนินการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงสุกรต่อ โดยจะขอเข้าไปชี้แจงเพื่อให้ข้อมูลต่างๆ กับชาวบ้าน ให้เป็นที่พอใจพร้อมแผนการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งร้องขอแกนนำไม่ให้ดำเนินการคัดค้านในการชี้แจงกับชาวบ้านในครั้งหน้า และขอให้จำเลยยืนยันในเรื่องความปลอดภัยของคณะฯ ที่จะเข้าไปในพื้นที่ในขณะชี้แจงต่อชาวบ้านด้วย โดยยืนยันว่า โครงการเลี้ยงสุกรดังกล่าว เป็นโครงการที่เป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ได้รับการรับรองมาตรฐานโดยกรมปศุสัตว์ สำนักระบบมาตรฐาน ISO มีมาตรฐานไม่ปล่อยน้ำเสียออกจากฟาร์มรวมถึงมีการบำบัดน้ำเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งมีระบบฟอกอากาศที่สามารถลดกลิ่นมูลสุกรได้ดี โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และดำเนินการในระบบ ISO 14,001 ซึ่งจะมีการนัดไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2561 โดยขอให้ฝ่ายโจทก์ ร้องขอต่อศาลเพื่อขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2561 ออกไปก่อน รอผลการเจรจา อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของศาล และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคู่กรณีทั้งสองฝ่าย อีกด้วย
สำหรับในกรณีดังกล่าว บริษัท ที.วี.เอฟ ฟาร์มมิ่ง จำกัด ได้ดำเนินการซื้อที่ดินจำนวน 135 ไร่ 69 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่ที่ 11 ของตำบลแม่อ้อ ห่างจากชุมชนไปประมาณ 1.3 กิโลเมตร เพื่อประกอบกิจการเพาะเลี้ยงสุกรในระบบปิด จำนวน 4,800 ตัว โดยมีแผนจะร่วมกิจการกับกลุ่ม ซีพีเอฟ ในการประกอบกิจการภายหลังจากการสร้างโรงเรือนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ผ่านมาได้มีการทำประชาพิจารณ์ กับกลุ่มชาวบ้านซึ่งมีผู้ทั้งเห็นด้วยและผู้ที่ไม่เห็นด้วย สำหรับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยได้ดำเนินการคัดค้าน ยืดเยื้อยาวนานมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2559 โดยกลุ่มผู้คัดค้านได้เปิดเวทีปราศรัยต่อต้านเป็นข่าวโด่งดังมาหลายครั้ง ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2559 ฝ่ายที่คัดค้าน จำนวนกว่า 300 คนได้บุกเข้าไปที่ อ.บ.ต.แม่อ้อ นำมูลสุกรไปเทข้างใน อ.บ.ต.ฯ มีการเผาพริก เผาเกลือ เผาโลงศพ ปราศรัยโจมตีกดดันไม่ให้นายก อ.บ.ต.แม่อ้อ อนุมัติการก่อสร้าง แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งในวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 นายก อ.บ.ต.แม่อ้อ 
ได้ลงนามใบอนุญาตก่อสร้างให้กับบริษัทฯ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้คัดค้านเป็นอย่างมาก กลุ่มผู้คัดค้านได้รวบรวมรายชื่อ ร้องศาลปกครองเพื่อขอให้ยกเลิกใบอนุญาตก่อสร้าง รวมทั้งร้องไปยังกรรมาธิการ สนช. และกองทัพบก เพื่อคัดค้านการก่อสร้างอย่างสุดกำลัง จนกระทั่งวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 ซึ่งเป็นวันครบอายุใบอนุญาตก่อสร้าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่อ้อ ได้ตัดสินใจไม่ลงนามต่อใบอนุญาตก่อสร้างให้กับบริษัทฯ ตามคำเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย จึงเป็นที่มาที่ทำให้ บริษัทฯ ได้ทำการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับแกนนำกลุ่มผู้คัดค้านในครั้งนี้ เป็นจำนวนเงินสูงถึง 500 ล้านบาท ข่าวความคืบหน้าทีมงาน ข่าวเด็ด 77 จะรายงานให้ทราบ ต่อไป
ข่าวโดย : เพทาย บ้านชี
