เพชรบูรณ์-คุณตาพิการสายตาเหยื่อถูกโกงที่ดิน โร่ขอความช่วยเหลือยุติธรรมจังหวัด หลังถูกนายทุนแจ้งความจะเอาผิดภรรยาและพวก อ้างร่วมกันเรียกสินบน ในขณะที่ 2 ตายายถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บใจ
เวลา 15.30 น.วันที่ 30 เมษายน ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสุเมธ สงคราม อายุ 80 ปี ข้าราชการครูบำนาญและเป็นผู้พิการทางสายตา, นางโสภี สงคราม อายุ 52 ปี ภรรยานางสุเมธ พร้อมนางรัตนาภรณ์ มิ่งเมือง อายุ 38 ปี อาสาสมัครผู้คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และนายจเร มิ่งเมือง อายุ 43 ปีสามีนางรัตนาภรณ์ ราษฎรต.ดงขุย องชนแดน ได้เข้าความช่วยเหลือและขอคำปรึกษาในข้อกฎหมาย หลังได้รับแจ้งจากพนักงานงานสอบสวน สภ.ดงขุย อ.ชนแดนว่า ถูกนายทุนเงินกู้แจ้งความกล่าวหาร่วมกันเรียกรับสินบนเสนอเจ้าหน้าที่เพื่อเคลียร์คดีนายสุเมธฟ้องร้องนายทุนเรื่องปลอมแปลงเอกสารใบอำนาจและนำไปไถ่ถอนที่ดินที่นายสุเมธจำนองให้ตัวเอง กระทั่งศาลชั้นต้นตัดสินพิพากษาจำคุกนายทุนรายนี้ 2 ปีและให้คืนโฉนดที่ดินหากคืนไม่ได้ให้ชดใช้เงิน 1.8 ล้านบาท โดยคดีดังกล่าวทางกระทรวงยุติธรรมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และล่าสุดคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์
นางรัตนาภรณ์กล่าวว่า ยืนยันไม่เคยไปเรียกร้องสินบนจากนายทุนตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้วนายทุนรายนี้พร้อมญาติ ได้พยายามขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับภรรยานายสุเมธที่บ้านของนางน้อยนายจ้างนางโสภี โดยมีทหารและกำนันอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และมีการเชิญตนไปร่วมในภายหลัง ซึ่งทางนายทุนเสนอเงินให้ก้อนหนึ่งและคืนโฉนดให้ แต่นางโสภีขอนำข้อเสนอไปปรึกษานายสุเมธสามีก่อน ต่อมานายสุเมธยื่นข้อเรียกร้องเงิน 3 ล้านบาท ปรากฏว่าตกลงไม่ได้โดยนางโสภีก็พร้อมรับข้อเสนอเดิมที่นายทุนยื่นข้อเสนอให้ แต่นายทุนกลับเงียบหายไปเฉยๆ
“กระทั่งเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวน สภ.ดงขุย ทางพนักงานสอบสวน ได้เชิญไปพบพร้อมแจ้งให้ทราบว่า ทางนายทุนเข้าแจ้งความกล่าวโทษดิฉันและสามีรวมทั้งนางโสภีและนางน้อย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่ให้สถานที่เจรจา โดยอ้างว่าร่วมกันเรียกสินบนเพื่อนำไปให้เจ้าหน้าที่เพื่อเคลียร์คดีก็เลยยังงงๆว่าเป็นไปได้ยังไง จึงพากันมาขอความช่วยเหลือจากทางยุติธรรมจังหวัดฯ ทางนายทุนยังจะแจ้งความแจ้งกล่าวโทษนายสุเมธด้วย แต่ถูกปฏิเสธจากพนักงานสอบสวน”นางรัตนาภรณ์กล่าว
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นนายบุญธรรม แก้วเขียว ที่ปรึกษากฎหมาย ประจำสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เพียงให้คำปรึกษาโดยแจ้งว่า เข้าใจว่ายังเป็นขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนสภ.ดงขุยรับแจ้ง และน่าจะยังอยู่ระหว่างในชั้นการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่ได้แจ้งดำเนินคดีแต่อย่างใด พร้อมแนะนำให้นางรัตนาภรณ์และพวกหากได้รับหมายเรียก ก็ให้ไปให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงตามความเป็นจริงต่อพนักงานสอบสวน และให้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อเตรียมไว้สำหรับการประกันตัวหรือการปล่อยตัวชั่วคราว และหากถูกสอบปากคำให้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนโดยขอความช่วยเหลือให้จัดหาทนายความให้ด้วย เพื่อเข้าร่วมรับฟังการสอบสวนตามสิทธิของกฎหมาย
อย่างไรก็ตามระหว่างนางโสภีให้ข้อมูลกับนายบุญธรรมนั้น นายสุเมธสามีถึงกับหลั่งน้ำตาสะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง หลังจากที่ภรรยาและพวกต้องถูกนายทุนรายนี้แจ้งดำเนินคดี จนทำให้นางโสภีถึงกับหลั่งน้ำตาไปพร้อมกันด้วย กระทั่งทางพนักงานเจ้าหน้าที่ฯต้องพูดจาปลอบโยนเป็นระยะๆ โดยนางโสภีระบุว่า “หลังจากศาลมีคำตัดสินแล้วสามีก็ยังถามย้ำตลอดว่าเมื่อไหร่จะได้โฉนดคืน ส่วนข้อเสนอที่จะให้เงิน 2 แสนบาทและคืนโฉนดที่นาและบ้านให้เราก็พอใจและเฝ้ารอมาตลอด แต่นายทุนก็เงียบไปไม่คาดว่าจะต้องมาถูกแจ้งดำเนินคดีแบบนี้”
