นครศรีธรรมราช:!ย่างสด สุดทรมาน โชเฟอร์รถสิบล้อบรรทุกสุกรเต็มคันจากฟาร์ม เข้าโรงงานใน จ.นครปฐม เกิดเหตุยางรถล้อหลังซ้ายระเบิดไฟลุกไหม้ทั้งคัน คนขับและลูกเมียรวม 4 ชีวิตพากันหนีตายทิ้งสุกรถูกไฟคลอกตายนับสิบตัว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 4 ต.ค.2562 ร.ต.อ.กำพลพัฒน์ ไพรสนฑ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถบรรทุกสุกรบนถนนสายเอเซีย 41 ฝั่งขาขึ้น หมู่ 6 ต.ถ้ำพรรณรา หลังรับแจ้งจึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ดร.วิชัย วิชยานฤพล ผกก. เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจถ้ำพรรณรา และรถดับเพลิง อบต.ถ้ำพรรณรา
ที่เกิดเหตุพบรถ 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 83-1339 บุรีรัมย์ ด้านหลังได้ถูกดัดแปลงไว้เพื่อใช้สำหรับบรรทุกสุกรด้วยพื้นและกรงเหล็ก 3 ชั้นแน่นหนา ที่กำลังมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และพบว่าบริเวณท้ายบรรทุกมีสุกรขนาดใหญ่นับร้อยตัว กำลังตะเกียกตะกายหนีตายส่งเสียงกรีดร้องระงมไปทั่วพื้นที่ เนื่องจากกำลังจะถูกไฟเผาไหมซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต่างๆพร้อมกับรถดับเพลิงของ อบต.ถ้ำพรรณรา ได้เร่งช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ โดยใช้เวลาร่วม 30 นาที ไฟจึงดับลง
หลังเพลิงสงบลง พบว่ามีสุกรถูกไฟคลอกตายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสุกรที่อยู่ชั้นล่างสุด ถูกไฟคลอกตายนอนทับกันกว่า 20 ตัว บางตัวถูกไฟไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก ส่วนชั้นที่สองและที่สามมีเฉพาะบางตัวขาดอากาศหายใจตายเนื่องจากสำลักควันไฟ ส่วนที่เหลือยังคงดิ้นทุรนทุรายร้องเสียงดังลั่น
สอบสวนนายภากร เทศเกิด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 2 ต.คลองกะจัง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ คนขับให้ปากคำว่าตนได้ขับรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวมาพร้อมกับภรรยาและลูกชายวัย 5 ขวบกับ 6 ขวบ รวม 4 คน ก่อนเกิดเหตุหลังจากที่ได้ไปรับสุกรจากฟาร์มแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 105 ตัว แต่ละตัวมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กก. เพื่อไปส่งเข้าโรงงานที่ จ.นครปฐม โดยใช้เส้นทางถนนสายเอเซีย เมื่อถึงที่เกิดเหตุยางล้อหลังซ้ายเกิดระเบิดเสียงดัง จากนั้นก็มีควันไฟพวยพุ่งออกมา ก่อนที่จะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนจึงตัดสินใจพยายามนำรถเข้าบริเวณไหล่ทางชิดขอบถนนพร้อมกับรีบพยุงตัวภรรยาและลูกลงจากรถอย่างรวดเร็วเพื่อหนีเอาชีวิตรอด ซึ่งหลังจากที่หนีลงมาจากรถเพียงไม่นานไฟได้ลุกไหม้ท่วมรถทั้งคันอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถเข้าไปช่วยชีวิตสุกรได้ ต่อมาไม่นานเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงมาถึงและใช้น้ำฉีดดับไฟจนสงบลง และพบว่าสุกรที่บรรทุกมาโดยเฉพาะตัวที่อยู่ชั้นล่างตายเกือบหมด ส่วนชั้นสองและชั้นสามตายไปเพียงบางส่วน และตัวรถได้รับความเสียหายเกือบทั้งคัน ยางล้อรถหลังซ้ายถูกเผาไหมหมดทั้ง 4 เส้น
เบื้องต้นประมาณการความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท สหรับสุกรที่ตายจะมอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเหลือ ส่วนตัวที่รอดชีวิตก็จะให้รถของบริษัทที่ตนทำงานมารับไปส่งเข้าโรงงานต่อไป
