ชุมพร-สลด!! เศรษฐีสวนปาล์มควบกระบะตัดรางรถไฟ ไฟสัญญาณเสีย ดับคารถ
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 5 ตุลาคม 62 ร.ต.อ.อารัทธ์ รักษษาวงศ์ รอง สว.สอบสวน สภ.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถกระบะ บริเวณจุดตัด ม.4 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย พร้อมแพทย์ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยสายชล ที่เกิดเหตุเป็นจุดตัดรางรถไฟ พบซากกระบะรถยนต์ มีทะลายปาล์มกระเด็นกระจายเกลื่อนริมทางรถไฟ ห่าง 200 เมตร มีรถด่วนขบวนที่ 43 วิ่งจาก กทม ปลายทางสุราษฏรธานี สภาพด้านหน้าตัวต่อขบวนหลุดลงมาจากแท่นยึด ใกล้กันพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ตอนเดียว เหลือเพียงหัวเก๋งและคลัชซี สภาพด้านขวาของคนขับถูกชนจนพังยับ และมีนายอรุณเกียรติ เอี่ยมจิตติรักษ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 198 ถนนขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร คอหักเสียชีวิตอัดติดอยู่ภายในซากรถ เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยจึงได้ใช้เครื่องตัดถางตัดอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถก่อนนำร่างออกมา
สอบสวนทราบว่า รถด่วนขบวนคันดังกล่าวเป็นรถด่วน วิ่งจากต้น ทางกรุงเทพ ปลายทางสุราษฎร์ธานี มี นายถาวร ขุนพรหม เป็นพนักงานขับรถ ก่อนจะมาถึงที่เกิดเหตุได้จอดรับ-ส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟชุมพร และสถานีต่อไปคือสถานีสวี แต่ขณะมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ขับขึ้นบนถนนทางตัดรางรถไฟอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ชะลอมองซ้ายและขวา ทำให้รถไฟซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วไม่สามารถจะหยุดรถได้ทัน จึงชนเข้าอย่างจังก่อนจะลากซากรถยาวไปกว่า 200 เมตร รถจึงหยุดได้ ซึ่งก็ทำให้นายอรุณเกียรติ เสียชิวิตดังกล่าว ตำรวจได้บันทึกเหตุร่วมกับทางเจ้าหน้าที่รถไฟประจำรถ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนจะปล่อยขบวนรถจอดที่สถานีวิสัย เพื่อทำการตรวจเช็คและแก้ไขแล้วเดินทางไปยังปลายทางเพื่อส่งผู้โดยสารต่อไป
ในขณะเดียวกันทางชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่า นายอรุณเกียรติ ถือว่าเป็นเศรษฐีรายใหญ่รายหนึ่ง มีที่สวนปาล์ม เฉพาะที่ ต.วิสัยเหนือ กว่า 100 ไร่ และยังมีที่สวนปาล์มและผลไม้ที่ อ.หลังสวน อีกกว่า 100 ไร่เช่นกัน โดยนายอรุณเกียรติ เป็นคนขยัน จะจ้างลูกน้องคอยตัดปาล์ม ส่วนนายอรุณเกียรติ จะเป็นขนบรรทุกมาขายที่ลานปาล์มด้วยตนเอง โดยแต่ละวันหลายรอบ และใช้เส้นทางนี้เป็นประจำทุกวัน ซึ่งเชื่อว่าด้วยความชำนาญและชินเส้นทาง ทำให้ชะล่าใจ ขณะที่ขับรถขึ้นทางตัดรางรถไฟ สัญญาณไฟกระพริบเตือนหากมีรถผ่านจะดัง แต่วันนี้ไฟสัญญาณเสีย ซึ่งนายอรุณเกียรติ คงไม่ทันสังเกตุจึงขับรถขึ้นถนนทางตัดรางรถไฟ โดยไม่จอดก่อน จึงทำให้รถไฟชนเข้าอย่างจังและเสียชีวิตในที่สุด
