สงขลา-สะเดา เกิดเหตุสลด รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกน้ำยางพารา ชนท้ายรถจักรยานยนต์ติดคาหัวรถ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนอีก 1 รายบาดเจ็บสาหัส เป็นผู้หญิงทั้งคู่ แต่โชเฟอร์ยังไม่ยอมหยุดรถ ผู้ประสบเหตุไล่ติดตามส่งสัญญาณให้จอด กว่า 300 เมตร จึงยอมหยุดรถ คาดเมาแล้วขับ
9 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 22.00 น. ร.ต.อ.ไพโรจน์ วงศ์ถวิล รองสารวัตร ( สอบสวน ) สถานีตำรวจภูธรสะเดา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณถนนกาญจนวนิช ด่านนอก – สะเดา เขตเทศบาลเมืองสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนประสานชุดกู้ชีพ กู้ภัยไม้ขม ของเทศบาลเมืองสะเดา ร่วมไปตรวจที่เกิดเหตุ
พบรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกน้ำยาง ยี่ห้อวอลโว่หมายเลข 60 – 4483 กรุงเทพมหานคร ป้ายทะเบียนส่วนพ่วงบรรทุก 63 – 3812 ของบริษัท โกลเด้นท์ปาล์ม ทรานสปอร์ตจำกัด จอดอยู่บริเวณข้างทาง ตรงส่วนหัวรถพ่วงด้านซ้ายมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีเขียว หมายเลขทะเบียน คงต 532 เสียบคาอยู่ โดยที่มีศพผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40 ปี คร่อมติดอยู่กับรถจักรยานยนต์ สภาพใส่เสื้อคลุมสีขาวแขนยาว กางเกงขาวลายน้ำเงิน ซึ่งศพมีแผลด้านหน้ากะโหลกยุบ เลือดไหลนองพื้น เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใคร เนื่องจากไม่มีเอกสารใดๆติดตัว
ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ กู้ภัยไม้ขม พบมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ตกอยู่ในพงหญ้าข้างทาง ทราบชื่อคือนางสาว ทัศนีย์ แสนชนะ อายุ 51 ปี เป็นชาวบ้านในตำบลสะเดา ได้รับบาดเจ็บสาหัสแขนขวาหัก ซี่โครงหัก ศรีษะแตก มีเลือดออกทางจมูกและปาก เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ รีบปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลสะเดา อย่างเร่งด่วน ซึ่งทางโรงพยาบาลสะเดาได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์กระบะตามหลัง รถพ่วง 18 ล้อ คันดังกล่าวซึ่งวิ่งส่ายไปส่ายมาด้วยความเร็ว ก่อนจะไปชนท้ายกับรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจัง แต่รถพ่วง 18 ล้อไม่ยอมจอดทั้งๆ ที่รถจักรยานยนต์เสียคาอยู่ พลเมืองดีจึงขับรถติดตามประมาณ 300 เมตรจากจุดที่เกิดเหตุ คนขับรถพ่วง 18 ล้อจึงยอมหยุดรถ
จากการสอบสวนนายเจริญพงศ์ พุทธกูล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ซึ่งเป็นคนขับรถพ่วง 18 ล้อ บอกว่าตนเองขับรถเพื่อจะกลับบ้านพัก โดยก่อนหน้านั้นเพื่อนๆได้เอาเหล้าไม่ทราบยี่ห้อผสมน้ำอัดลมให้กิน ซึ่งตนเองได้กินไปเล็กน้อยยังไม่เมา ถึงที่เกิดเหตุมองไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์เนื่อง จากไม่มีไฟท้าย รู้ตัวก็ชนไปแล้วแต่ไม่สามารถหยุดรถได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเจริญพงศ์ ไปตรวจหาแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งสารเสพติดอื่นๆ ซึ่งจะทราบผลภายในสองวัน ก่อนที่จะรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
