ล่าสุดเวลา 09.00 น.กลุ่มลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 10 คน เดินทางยังยัง ธกส.ท่าอุเทน ขอเข้าพบนายจักรพงศ์ โลหะ ผู้จัดการฯ เพื่อสอบถามความคืบหน้า ซึ่งนางนงนุช กาสี อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 111 หมู่ 14 บ้านธาตุ ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน หนึ่งในผู้เสียหายเผยว่า ตนยื่นเรื่องขอกู้ 200,000 บาท เพื่อนำเงินไปเปิดร้านสปาที่ จ.ขอนแก่น ปรากฏว่ามีเงินเข้าบัญชี 350,000 บาท ต่อมา น.ส.ศศิธรหรือปุ๋ยโทรมาหาให้มาถอนเงินคืนธนาคาร เนื่องจากเอาเงินเกินบัญชี หากตนไม่มาอนาคตอาจจะไม่มีสิทธิ์กู้ยืมอีก จึงรีบนั่งรถโดยสารมาถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคาร ถือไปมอบให้ น.ส.ปุ๋ยบนชั้น 2 ของสำนักงานซึ่งเปิดเป็นแผนกฝ่ายสินเชื่อโดยเฉพาะ และด้วยความไว้วางใจในฐานะเจ้าหน้าที่ของแบงค์ ตนยังฝากดอกเบี้ยให้ น.ส.ศศิธรไปจ่ายครั้งละ 26,000 บาท จำนวน 2 ครั้ง หลังเกิดเรื่องตนจึงทราบว่ามียอดหนี้ 350,000 บาท ส่วนเงินจ่ายดอกนั้นก็ไม่ถึงธนาคารแต่อย่างใด ในส่วนตัวตนคิดว่า น.ส.ปุ๋ยไม่น่ากระทำการเพียงลำพังคนเดียว
นายจักรพงศ์ฯ ผจก.ธกส.สาขาท่าอุเทน เปิดห้องทำงานต้อนรับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายจาก น.ส.ศศิธรหรือปุ๋ย เปิดเผยว่าทางธนาคารได้ไล่ น.ส.ปุ๋ยออกไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เท่าที่ตรวจเช็คจำนวนลูกค้าที่ถูกอดีตสาวแผนกสินเชื่อโกง มีทั้งสิ้น 32 ราย ยอดเงินที่ขอกู้ในขณะนั้นประมาณ 12,000,000 บาท เงินที่ถูก น.ส.ปุ๋ยโกงไปตรวจสอบได้มีจำนวน 2,055,000 บาท ซึ่งทางสำนักงานใหญ่จะเป็นผู้เปิดแถลงข่าวเอง ยอมรับว่าหลังมีข่าวออกไปทางธนาคารได้รับผลกระทบ ลูกค้าขาดความเชื่อมั่นในตัวเจ้าหน้าที่ อนาคตต้องแก้ไขจุดบกพร่องเพื่อให้ลูกค้ากลับมาไว้วางใจ ธกส.อีกครั้ง
ต่อมากลุ่มลูกค้าได้ไปยัง สภ.ท่าอุเทน เพื่อรับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง พ.ต.อ.นที สิริวรวัชร์ ผกก.ฯ เปิดห้องประชุมบนชั้น 3 พร้อมกล่าวว่าเพิ่งได้มารับตำแหน่งเมื่อกลางเดือนมีนาคมนี้ หลังเกิดข่าวก็เรียกพนักงานสอบสวนนำเอกสารต่างๆมาอ่านรายละเอียด ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีกฎหมายเฉพาะคือกฎหมาย ป.ป.ท.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามผู้ทุจริตในภาครัฐ) จตรวจสอบแล้วหลังมีประชาชนมาร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐ วันที่ 9 ก.พ.61 ได้ส่งเรื่องทั้งหมดไปยัง ป.ป.ท.ภาค 4 ขอนแก่น เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต่อไปก็จะมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ลงมาสอบสวนข้อเท็จจริงกับผู้เสียหาย เพื่อนำสำนวนเสนออัยการพิจารณาต่อไป เชื่อว่าคดีนี้ ป.ป.ท.ต้องเร่งดำเนินการเพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกัน น.ส.ศศิธรหรือปุ๋ยได้แซทไลน์กับลูกหนี้รายหนึ่ง ในทำนองขอโทษเพราะหลงผิดติดการพนัน อ้างกำลังประกาศขายบ้านนำเงินมาใช้หนี้ที่โกงไป แต่กลุ่มผู้เสียหายไม่เชื่อ เพราะครั้งหนึ่งเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีทนายของ น.ส.ปุ๋ยนัดจะเอาเงินมาเคลียร์กันที่ สภ.ท่าอุเทน เวลา 08.00 น. รอจนถึง 16.00 น. ทนายก็มาถึงโดยบอกว่า น.ส.ปุ๋ยไม่มีเงินมาเคลียร์ ทางตำรวจในฐานะคนกลางไกล่เกลี่ยบอกว่าก็คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จากนั้นจึงส่งคดีให้ ป.ป.ท.ภาค 4 ขอนแก่น รับไปดำเนินการต่อ
ล่าสุด นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม สั่งด่วนให้สอบสวนข้อเท็จจริง และให้ผู้เกี่ยวข้องเยียวยาเบื้องต้นกับกลุ่มลูกหนี้ดังกล่าวแล้ว
