นครพนม – วันที่ 16 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 09.30 น. ร.ต.อ.(หญิง) จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม มีนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี นางบี (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี สองสามีภรรยาเป็นราษฎร ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม จูงมือ เด็กหญิงอ้อย(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี บุตรสาว เข้าแจ้งความว่าลูกสาวได้ถูกนายตอ (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี ข่มขืนกระทำชำเรานานกว่า 5 ปี ความมาแตกเพราะนางบีสังเกตุลูกสาวมีอาการซึม จึงเค้นถามจนเปิดปากเล่าเรื่องราวให้แม่ฟัง
นางบีมีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลาเปิดเผยว่า ก่อนจะมาอยู่กินกับนายเอ ชีวิตครอบครัวของตนครั้งแรกล้มเหลวต้องเลิกรากับสามีเก่า โดยตนมีน้องอ้อยเป็นลูกติดมา 1 คน ขณะนั้นฝากยายเลี้ยงอยู่ใน กทม. หลังตั้งหลักสร้างรากฐานครอบครัวใหม่ได้มั่นคง จึงนำน้องอ้อยมาอยู่ด้วย และส่งให้น้องเรียนชั้น ป.3 ในโรงเรียนใกล้บ้าน โดยบ้านของตนอยู่ในเนื้อที่เดียวกันกับบ้านของนายตอ เพราะมีศักดิ์เป็นอาของสามี ลูกสาวจึงเรียกนายตอว่าพ่อทุกคำ ส่วนตนด้วยความนับถือก็จะเรียกนายตอว่าปู่เสมอ
เวลาผ่านมาจนน้องเรียนอยู่ชั้น ม.1 ตนเริ่มเห็นความผิดปกติของลูก เพราะจากเด็กร่าเริงกลายเป็นคนเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง จึงเรียกมาสอบถามถึงสาเหตุที่ซึมเศร้า แรกๆ ลูกไม่ยอมเปิดเผยจนทนรบเร้าไม่ไหว จึงเปิดปากพูดว่าถูกนายตอล่วงละเมิดทางเพศ โดยถูกกระทำอนาจารมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ครั้งแรกใช้มือลูบอวัยวะเพศ พร้อมขู่ห้ามนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟัง จากนั้นเมื่อมีโอกาสนายตอจะกระทำอนาจารเสมอ จนเรียนถึงชั้น ป.6 นายตอใช้นิ้วเข้าไปในช่องคลอด พอถึงชั้น ม.1 จึงใช้อวัยวะเพศสอดใส่ ทุกครั้งจะข่มขู่ห้ามบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว ด้วยความกลัวน้องจึงเก็บกดอยู่เพียงคนเดียว
ด้านน้องอ้อยผู้ถูกล่วงละเมิด มีอาการตื่นตระหนกตลอดเวลา เพียงเอ่ยชื่อนายตอจะมีอาการหวาดผวา โดยเล่าว่าหลังถูกนายตอลูบอวัยวะเพศแล้ว ก็ไม่กล้าไปเล่นที่บ้านหลังนั้นอีก แต่จะถูกนายตอใช้กลอุบายหลอกไปที่บ้าน เพื่อกระทำอนาจารเสมอ ตลอดเวลาแค่เดินผ่านบ้านนายตอยังกลัว ทุกครั้งตอนถูกกระทำพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน เพราะต้องออกไปทำมาหากิน จึงปล่อยให้ตนอยู่บ้านเพียงลำพัง กว่าพ่อแม่จะกลับเข้าบ้านก็พลบค่ำ จึงกลายเป็นโอกาสที่นายตอล่วงละเมิด แม้จะยกมือไหว้ขอร้องนายตอก็ไม่ฟัง
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม ทหารพรานสนธิกำลังยึดยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด! ตรวจพบฝิ่นดิบกว่า 3 กิโลกรัม ริมแม่น้ำโขง
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
- พ่อค้ายาเกมส์ ซุกยาบ้าในกล่องนมมิดชิด รอส่งพ่อค้ารายย่อย ไม่รู้ตร.ซุ่มกวาดล้าง ถูกรวบพร้อมของกลาง 70 เม็ด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายตอหลังทราบว่าครอบครัวน้องอ้อยไปแจ้งความดำเนินคดี ก็ยังไม่ลดความเหิมเกริม ประกาศว่าหากตนถูกจับ ครอบครัวนางบีก็ต้องโดนด้วย โดยคุยกับคนสนิทว่าจะแอบเอายาเสพติดไปโยนใส่บ้าน เพื่อให้ถูกจับในข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษ นางบีจึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนน้องอ้อยจะต้องสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ และต้องหามาตรการป้องกันความปลอดภัยต่อครอบครัวนางบี ก่อนจะส่งตัวน้องอ้อยให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมขออนุมัติศาลฯออกหมายจับนายตอต่อไป
สำหรับอัตราโทษ ตามกฏหมายในคดีข่มขืนกระทำชำเรา ได้ระบุชัดเจนไว้ว่า
ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท อาทิ ข่มขืนโดยมีอาวุธ หรือใช้อาวุธ เช่น ปืน หรือวัตถุระเบิด หรือร่วมกันข่มขืนในลักษณะโทรมหญิง ต้องรับโทษหนักขึ้น คือ จำคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 30,000 – 40,000 บาท
ทั้งนี้หากข่มขืน กรณีที่เป็นเด็กหญิงต้องรับโทษหนักขึ้น และหากข่มขืนโดยมีหรือใช้อาวุธ หรือร่วมกันข่มขืนในลักษณะโทรมหญิงต่อเด็กหญิงที่อายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กนั้นไม่ยินยอม ผู้ข่มขืนต้องรับโทษหนัก คือ จำคุกตลอดชีวิต
ถ้าข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กนั้นไม่ใช่ภริยาของผู้กระทำ แม้เด็กนั้นยินยอม ก็ยังถือว่าเป็นความผิด ต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท
ถ้าข่มขืนเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ต้องรับโทษหนักกว่าข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี คือ ต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 7-20 ปี และปรับตั้งแต่ 14,000-40,000 บาท หรืออาจต้องรับโทษหนักถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: