นครพนม – ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า มหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) มีปัญหาขัดแย้งกับคณบดีวิทยาลัยการบินนานาชาติ พล.อ.อ.วรฉัตร ธารีรัตน์ นำมาซึ่งการตั้งกรรมการสอบสวนฯ เกี่ยวกับบริหารจัดการภายใน ว.การบินฯ หลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งคณบดีฯก็นำเอกสารหลักฐานมาหักล้างได้เสมอ
กระทั่งวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ศ.ดร.สุนทร บุญญาธิการ นายกสภา มนพ. ได้เปิดประชุมครั้งที่ 10/2562 มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกสัญญาจ้าง พล.อ.อ.วรฉัตร ธารีรัตน์ โดยอ้างว่า ผลการบริหารงานไม่เป็นไปตามวิสัยทัศน์ แนวทาง และแผนการบริหารที่เคยแถลงไว้ต่อสภาฯ หากยังคงให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนครบ 4 ปี มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาและพัฒนา ว.การบินฯได้ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยและต่อราชการโดยส่วนรวม สภาฯจึงเห็นควรให้ มนพ.บอกเลิกสัญญาจ้างก่อนครบกำหนดที่ระบุในสัญญา และในคำสั่งเดียวกันสภาฯได้แต่งตั้ง รศ.ดร.กรไชย พรลภัสรชกร รองอธิการบดี มนพ.เป็นผู้รักษาการแทนคณบดี ว.การบินฯ
ข่าวน่าสนใจ:
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- นครพนมคึกคัก! เปิดศึกเลือกตั้ง อบจ. วันแรก “ศุภพานี-ประสงค์” ชิงชัย พร้อมนโยบายพัฒนาท้องถิ่น
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
หลังมีคำสั่งยกเลิกสัญญาจ้าง พล.อ.อ.วรฉัตร ธารีรัตน์ แล้ว ปรากฏว่ามีเสียงสะท้อนจากแหล่งข่าวผู้มีความรอบรู้เกี่ยวกับกฎหมาย และข้อบังคับ มนพ. ว่า แรกทีเดียวจะมีการนำผลการประเมินมาปลด แต่มีผู้คัดค้านถึงผลการประเมินนั้น มีความไม่เป็นเหตุเป็นผลเพียงพอ เช่น ในข้อ 2 ผลการประเมินการศึกษา ว.การบิน ได้เกือบเต็ม แต่พอมาดูในข้อ 3 ว.การบินฯกลับไม่ได้ในหลักธรรมาภิบาล โดยผู้คัดค้านให้เหตุผลว่าหลักธรรมาภิบาลเป็นส่วนหนึ่งในข้อ 2 เมื่อวกกลับไปยังข้อที่ 1 คำรับรองการปฏิบัติราชการของ มนพ.ก็ไม่มี แล้วกรรมการไปประเมิน ว.การบินฯด้วยเรื่องอะไร เพราะเอาคนที่ไม่รู้เรื่องมหาวิทยาลัยไปประเมิน เหมือนเอาเณรไปประเมินสังฆราช
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ผู้ประเมินก็ตั้งกรรมการอุทธรณ์ไปอยู่ในคณะด้วย สมมุติถ้าผู้ถูกประเมินไม่เห็นด้วย ไปยื่นเรื่องคัดค้านต่อประธานกรรมการอุทธรณ์ แล้วเรื่องที่ร้องก็ไม่ผ่านอยู่ดี เพราะกรรมการประเมินกับอุทธรณ์เป็นบุคคลคนเดียวกัน มันจึงขัดกับหลักธรรมาภิบาล เป็นสิ่งที่ดำเนินการมิชอบ
เมื่อผลการประเมินนำมาปลดคณบดี ว.การบินฯไม่ได้ เนื่องจากกรรมการชุดดังกล่าว ตอบคำถามผู้ทรงคุณวุฒิที่สงสัยในหลายๆประเด็นได้ โดยเฉพาะการไม่สัมภาษณ์ผู้ถูกประเมินแม้แต่คำเดียว หากผู้ทรงคุณวุฒิเห็นพ้องยกมือโหวตรับผลประเมิน อนาคตมีสิทธิ์ติดคุกแน่นอน ดังนั้นในที่ประชุมจึงจะมีคำสั่งให้ประเมินใหม่ แต่เมื่อผู้คัดค้านออกจากที่ประชุม ก็ลักไก่เปลี่ยนเป็นยกเลิกสัญญาจ้างทันที โดยอ้างสัญญาจ้างพนักงาน มนพ. ข้อที่ 8
แต่เมื่อเปิดอ่านสัญญาจ้างข้อ 8 ระบุว่า “ในระหว่างการจ้างตามสัญญานี้ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีความประสงค์จะเลิกสัญญานี้ก่อนกำหนดเวลา คู่สัญญาฝ่ายนั้นต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน มิฉะนั้นคู่สัญญาฝ่ายนั้นต้องรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้กับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง”
ดังนั้น การจะเลิกจ้างคณบดี ว.การบินฯได้ คือ ต้องหมดวาระหรือถอดถอนคณบดีออกจากตำแหน่งเสียก่อน กรณีนี้ยังไม่หมดวาระและยังไม่ได้ถอดถอน แล้วอ้างข้อบังคับที่ 8 ให้มหาวิทยาลัยยกเลิกสัญญามันจึงผิดขั้นตอน อีกอย่างไม่ใช่อำนาจของสภา มนพ.ในการบอกเลิกสัญญา แต่จะเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่จะเป็นผู้แต่งตั้งหรือถอดถอน มันจึงไปอยู่ในข้อ 9(5) คือ ไม่ผ่านการประเมินของมหาวิทยาลัย แต่เมื่อมีคำสั่งยกเลิกสัญญาจ้างจาก สภา มนพ. ทาง พล.อ.อ.วรฉัตร ธารีรัตน์ ก็จะยื่นหนังสือฟ้องศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวต่อไป พร้อมเดินหน้าฟ้องร้องผู้เกี่ยวข้องทุกคน ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
ขณะเดียวกันมีความไม่โปร่งใส เกี่ยวกับรายงานการประชุมสภามหาวิทยาลัยตั้งแต่ ครั้งที่ 7/2561 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ที่ไม่มีการเปิดเผย อาจเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ปกปิด งุบงิบกัน ถ้ามีเรื่องใดเกิดปัญหา ก็ไปแอบแก้รายงานการประชุม แก้มติที่ประชุม แม้จะอ้างว่าสามารถติดต่อขอทราบได้ที่สำนักงานอธิการบดี ก่อนหน้านี้การบริหารงานล้วนเปิดเผยโปร่งใส สามารถตรวจสอบรายงานการประชุมได้ การปกปิดรายงานการประชุมเพิ่งเกิดขึ้นในสมัยปัจจุบัน
นอกจากนี้วันที่ 12 ตุลาคม มีผู้บริหารขึ้นเวทีในงานประเพณีไหลเรือไฟฯ ด้วยการเชิญ”ครูแก้ว”นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2/สส.นครพนม มาเป็นประธาน แต่โดยไม่มีใครคาดคิดว่าผู้บริหารคนนี้ จะพูดเรื่องภายใน มนพ.เกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาจ้างคณบดี ว.การบิน หลายคนเห็นจึงว่าไม่รู้จักกาลเทศะและไม่เหมาะสม เพราะเป็นงานประเพณีรื่นเริง ขณะที่ครูแก้วกล่าวชื่นชมผู้บริหารรายนี้จนยิ้มแก้มปริ แต่ตอนจะจบครูแก้วพูดขึ้นมาคำหนึ่งว่า”..ผมไม่เคยปฏิเสธความหวังดีของคนที่มาจากต่างจังหวัดฯ คนนครพนมเปิดโอกาสให้ท่านตลอดเวลา แต่อย่ามาใช้นครพนมเป็นเพียงที่ทำมาหากินแค่นั้นแหละ” ทำเอาผู้บริหารรายนั้นหน้าเสียทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: